กลับมาเป็นประเด็นที่หลายคนจับตามองอีกครั้ง สำหรับ คดีการเสียชีวิตของนักแสดงสาว แตงโม นิดา ที่หลังจากมีการจำลองตกเรือ ทำให้หลายคนต่างออกมาพูดถึงกันมากมาย รวมไปถึง พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เป็นอดีตรักษาการผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล
เจ้าของฉายา มือปราบศยามล และ มือปราบขุนดง ยังได้พูดถึงบาดแผลบริเวณโคนต้นขาของแตงโมว่า “เรื่องคดีคุณแตงโมใช่ไหมครับ เราก็อ่านแต่ข่าวกันนะ
และตามแต่ข่าว แล้วก็ไม่รู้รายละเอียดไปวิพากษ์วิจารณ์เดี๋ยวผิด แต่ว่าคดีมันต้องดูเจตนาด้วยอะไรด้วยว่าคดีมันเป็นฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ
แต่พนักงานสอบสวนก็สั่งฟ้องไปแล้วว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งเรื่องไปถึงขั้นตอนการพิจารณาของศาลแล้ว ถ้าเป็นผมนะผมว่าเอาหมูนั่งไปก็ได้ครับเอาไว้ท้ายเรือ
เอาน้ำหนักเท่าๆซัก50กิโลอะไรอย่างนี้ หมูยังมี4ขาผลักลงน้ำไปปั๊บเพื่อดูว่าหมูมันโดนใบพัดรึเปล่า? ทดลองสัก4-5ตัว
แล้วหมูมันไม่โดนใบพัดคนก็จะทำท่าหล่นตามนะครับ เห็นบอกว่าถ้ามีคนโดนใบพัดจะมีคนจ่ายให้ 2 ล้านบาท
โอกาสที่จะโดนใบพัดมันเป็นไปได้ยากอยู่แล้วล่ะครับ เพราะเวลาคนมันหงายท้อง เรือมันมีความเร็วครับ ลงไปปั้งปุ๊บเนี่ยน้ำหนักน้ำมันจะรับอยู่มันจะไม่จมเลย
แล้วเรือก็วิ่งฟืดไปแล้วมันจะโโนได้ยังไงนะครับ โอกาสโดนมันก็ไม่มีอยู่แล้ว ก็ว่ากันไปนะครับ โอกาสทางหลักนั่นแล้ว ผมมองว่ายังไงก็ไม่โดนครับ ใบพัดเรือนะ
ถ้าเป็นเรือหางยาวอย่างที่ผมขับไปเรียนหนังสืออย่างนั้นยังมีโอกาสโดน เรืหางยาวความเร็วมันช้า และหางมันยาวไปวากว่า 3 เมตร มันลำบากนะ
ทุกคนก็อยากพิสูจน์ความจริง แต่บังเอิญมีอะไรมันต้องไปเรียกร้องตรงชั้นพนักงานสอบสวนที่กำลังทำคดีกัน ตอนนี้คดีมันขึ้นไปสู่ศาลแล้ว
เปรียบเทียบนะมันเหมือนกับผีก็วนเมรุแล้ว ศาลจะตัดสินแล้ว การไปรื้อฟื้นมันเหนื่อยและยากถ้าไม่มีพยานหลักฐานในคดี จะไปฟ้องซ้ำก็ไม่ได้
จะไปกล่าวโทษผู้ต้องหาเพิ่มก็ไม่ได้มันมีกรอบกฎหมายว่าอยู่นะครับ เรื่องคดีแตงโมส่วนตัวผมว่ารื้ออยาก ต้องเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการ
ของเรามันเป็นระบบสอบสวนไม่ใช่ระบบไต่สวนที่ศาลนะแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้ ตำรวจและอัยการเขาฟ้องมาอย่างนี้
ศาลก็ต้องตัดสินไปตามพยานหลักฐานตัดสินไปแล้วก็ต้องมีอุทธรณ์ อัยการอุทธรณ์ หรือแม่แตงโมอุทธรณ์ และไปฏีกา ถ้ามันฏีกาได้มันก็เป็นไปตามกรอบแบบนี้ล่ะครับ”
ขอบคุณข้อมูล: วรวุธ โนนสูง