ต้องบอกเลยว่าทุกวันที่ 10 ของทุกๆเดือน รัฐบาลจะมีการโอนเงินเบี้ยให้กับ เด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุ และ ผู้พิการ เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่างๆ
ล่าสุด อัปเดตวันโอนเงิน 3 กลุ่มเปราะบาง ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 กระทรวงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะโอนเงินช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่ม
ได้แก่ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด , เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และ เบี้ยผู้พิการ ซึ่งเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันเสาร์-อาทิตย์
จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนในวันเวลาราชการ โดยในงวดเดือน ก.พ. 2568 เงินโอนเข้าในวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568
1. เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด โอนเงินเข้าบัญชีวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568
โครงการเงินอุดหนุน เพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เป็นโครงการเงินอุดหนุนของรัฐบาลที่ช่วยแบ่งเบาภาระในการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของพ่อแม่ผู้ปกครอง
โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ สมาชิกครัวเรือนต้องมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี พ่อแม่จะได้รับเงินอุดหนุนบุตร ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี จำนวน 600 บาทต่อคนต่อเดือน และไม่จำกัดจำนวนบุตร
สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่คุณสมบัติตรงเงื่อนไข สามารถยื่นลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนบุตร 600 บาท ได้ตลอด โดยติดต่อลงทะเบียนได้ในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง ได้แก่
-กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สํานักงานเขต
-เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
-ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตําบล หรือเทศบาล
ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบสถานะสิทธิเงินอุดหนุนบุตรได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
-เว็บไซต์กรมกิจการเด็กและเยาวชน
-แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”
-แอปพลิเคชัน “เงินเด็ก”
2. เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โอนเงินเข้าบัญชีวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ คือสวัสดิการที่รัฐมีไว้เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตในแต่ละเดือน รายละ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ ดังนี้
-อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน
-อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน
-อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน
-อายุ 90 ปี ขึ้นไป ได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
-มีสัญชาติไทย
-มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
-มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
-เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด
ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิ
สำหรับผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์การขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ สามารถติดต่อลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปี 2569 ได้แล้ว ภายในเดือนกันยายน 2568 คุณสมบัติดังนี้
หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิ
1. กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง
-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด
-สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด
-สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด
2. กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มคือ
-หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)
-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด
-สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด
สถานที่ในการขึ้นทะเบียน
-จุดบริการ ใน กทม. สำนักงานเขต 50 เขต
-กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
-อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือเทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
-สำหรับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ผู้สูงอายุสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน
3. เบี้ยผู้พิการ โอนเงินเข้าบัญชีวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568
เบี้ยผู้พิการ ได้รับคนละ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ ดังนี้
-ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน
-ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ หากเป็นคนพิการอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็จะสามารถกดเพิ่มจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนอีก 200 บาทต่อเดือน รวมได้รับรายละ 1,000 บาทต่อเดือน
ผู้พิการสามารถติดต่อขึ้นทะเบียนคนพิการ ได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดในทุกจังหวัด) หรือพื้นที่กรุงเทพฯ ติดต่อได้ที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ , ศูนย์บริการคนพิการกรุงเทพมหานคร