โดยวันนี้ 31 ก.ค. 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี ‘นายฮุน มาเน็ต’ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความเร่งรัดให้ไทยส่งตัวทหารกัมพูชา 18 นาย กลับประเทศ โดย พล.ต.วินธัย ระบุว่า
‘พลโทบุญสิน พาดกลาง’ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ชี้แจงกับ ‘พลเอกดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์’ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย ไปแล้ว
หลังที่ได้มีการพบกันเมื่อ 29 ก.ค. ว่าจะดูแลเป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมายสากล และจะรีบส่งกลับเมื่อเสร็จขั้นตอนตามกฏหมาย
ในขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 31 ก.ค. 2568 (ณ เวลา 10.00 น.) ปรากฏความเคลื่อนไหวของกำลังประเทศกัมพูชาและสถานการณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดดังนี้
1. ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังและเสริมความมั่นคงของกำลังประเทศกัมพูชา ในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
2. ตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรนไม่ทราบฝ่าย/ไม่ทราบชนิด) บินตรวจการณ์ที่ตั้งการวางกำลังของฝ่ายเราในหลายพื้นที่ สำหรับการตรวจพบในพื้นที่ชายแดน ได้แก่ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี, พื้นที่ภูมะเขือ, สัตตะโสม, ปราสาทโดนตรวล, ภูผี อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ, ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และ ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
3. การดำเนินการต่อผู้ถูกควบคุมตัว ซึ่งเป็นทหารกัมพูชาที่ยอมจำนน เนื่องจากกระสุนหมด ในพื้นที่ =ช่องซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 20 นาย และอาวุธ/ยุทโธปกรณ์, กระสุน/วัตถุระเบิดที่ตรวจยึดได้ รายละเอียดดังนี้
3.1 ผู้ถูกควบคุมตัว
– ทั้ง 20 นาย ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายในความผิดฐานเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ต่อพนักงานสอบสวนที่มีอำนาจ
– การดำเนินการต่อผู้ถูกควบคุมตัวที่บาดเจ็บ จำนวน 2 นาย ส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อ.เมือง จ.สุรินทร์ และให้ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชมาประเมินอาการ เนื่องจากคาดว่าเกิดจากการเข้าทำการรบเป็นเวลานาน
3.2 อาวุธ/ยุทโธปกรณ์, กระสุน/วัตถุระเบิด
– อาวุธ/ยุทโธปกรณ์ ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่สรรพาวุธตรวจสอบและเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อส่งมอบให้พนักงานสอบสวนที่มีอำนาจ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
– กระสุน/วัตถุระเบิด ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่สรรพาวุธ (EOD) นำไปทำลาย