ยังคงติดตามสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด สำหรับ รายการ “โหนกระแส” แถมล่าสุดยังมีการพูดคุยกันถึงด้านวัฒนธรรมและจิตวิทยาประชาชน โดยเฉพาะกรณีการปลูกฝังอคติผ่านนิทานพื้นบ้านในฝั่งกัมพูชา
เพราะ “รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช” นักวิชาการด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้กล่าวถึง นิทานเรื่อง “พระโค-พระแก้ว”
ซึ่งเป็นเรื่องเล่าที่ถูกสอดแทรกอยู่ในระบบการศึกษาของกัมพูชา และมีบทบาทสำคัญในการสร้างภาพจำเกี่ยวกับความเป็นศัตรูระหว่างเขมรและไทยมาอย่างช้านาน
โดยนิทานเรื่องนี้เล่าถึง….ตัวละครสองพี่น้อง พระโค (วัวศักดิ์สิทธิ์) และพระแก้ว (มนุษย์) ซึ่งถือกำเนิดพร้อมกันและมีอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติ เรื่องราวดำเนินไปจนฝ่ายสยาม (ไทย)ได้ยินกิตติศัพท์ของทั้งสองจึงส่งทูตมาท้าประลอง
และต่อมาก็ยกกองทัพมารุกรานจนสามารถจับตัวพระโคและพระแก้วกลับไปยังกรุงศรีอยุธยา พร้อมด้วยสมบัติและภูมิปัญญาทั้งหมดของกัมพูชา นิทานจบลงด้วยการสูญเสียทั้งทรัพย์สิน อัตลักษณ์ และเกียรติภูมิของกัมพูชาให้แก่สยาม และกลายเป็นสาเหตุที่อธิบายความเสื่อมถอยของเขมรในมุมมองของนิทาน
เนื้อหาของนิทานไม่ได้เพียงให้ความบันเทิงหรืออธิบายเหตุการณ์ในอดีตเท่านั้น แต่ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกเร้าอารมณ์ชาตินิยมโดยเฉพาะในหมู่เด็กและเยาวชนชาวกัมพูชา ซึ่งถูกปลูกฝังให้จดจำว่า “ไทยขโมยพระโค-พระแก้วไป” เปรียบเสมือนขโมยปัญญาและจิตวิญญาณของเขมรไปด้วย
และแม้ในทางประวัติศาสตร์จะไม่มีหลักฐานที่ตรงกับเนื้อหานิทาน แต่เรื่องเล่านี้กลับได้รับการนำเสนออย่างต่อเนื่องและได้รับการขยายความในเชิงสัญลักษณ์ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา เช่น กรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร
ทั้งนี้ รศ.ดร.ดุลยภาค ได้ตั้งข้อสังเกตว่า นิทานเรื่องนี้มีบทบาทในกระบวนการสร้างอัตลักษณ์ชาติของกัมพูชาในยุคหลังอาณานิคมและสะท้อนถึงวิธีที่รัฐใช้ประวัติศาสตร์และตำนานในการกำหนดความรู้สึกของประชาชนต่อประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกลายเป็นแรงเสียดทานเชิงจิตวิทยาที่ซ่อนอยู่ในความขัดแย้งชายแดนในปัจจุบัน
ในขณะที่ พิธีกรอย่าง หนุ่ม กรรชัย ยังอึ้งและบอกเลยว่า “ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยเรื่องนิทาน มันเปิดโลกทัศน์ผมมาก”
ขอบคุณข้อมูล : โหนกระแส