เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่น่ารัก และอบอุ่นมาก สำหรับ แย้มนาม กับ แอน ภัททิรา ที่ล่าสุดรายการตีท้ายครัว พาไปบุกสวนทุเรียน 40 ไร่ ที่เมืองจันท์ ที่ผลผลิตในสวน ทุเรียนเพิ่งขายหมดรุ่นใหม่ ยังมีผลไม้อีกมากมายเต็มสวนไปหมด
โดยชาคริต เล่าถึงพรหมลิขิตกับ แอน ภรรยา ว่า “ตระกูลเขาทำสวน ตามีลูก 6 คน พี่น้องของแม่ยายผม เขาเป็นบ้านเดียวไม่เอาเรื่องสวนเลย แม่เขาทำงานสาธารณสุข พ่อตาก็อยู่ฝั่งทะเล พี่ชายเขากับเขาพอเข้ากรุงเทพฯก็ใจแตกเลย เด็กๆกินทุเรียน โตมาเหม็น ไอ้เราคนเมือง เราก็มามีที่อยู่จันทบุรีตั้งแต่เด็ก เพราะเราคิดว่ามันจะอุดมสมบูรณ์ เป็นบั้นปลายชีวิต”
“ก็ไม่รู้งงๆ มึนๆ แล้วมาแต่งกับเขา อ้าวเฮ้ยที่มันใกล้กันนิดเดียวเหมือน destiny (พรหมลิขิต) destiny ไม่พอแต่งแล้วแถมลูกมาด้วย ก็เลยทำสวนเลยแล้วกัน บั้นปลายที่เราคิดว่าจะมาใช้ กลายเป็นไม่ต้องรอแล้ว เอามาใช้เลย เอามาทำเลย”
“เราก็ไม่รู้อาชีพนักแสดง มันดีมาก มันให้ทุกอย่างกับเรา พอเรามีครอบครัวเรามานั่งคิด ถ้าเราเป็นอะไรไปไม่มีใครแทนเราได้เลยนะ เมื่อแฟนเราทำงานเก่ง ขยันอยูแล้ว เรื่องอาหารการกินคนเราก็ต้องกิน เรามีสวนมีบ้านอยู่แล้ว ชิลอยากจะขายมากขายน้อย ทำมากทำน้อยอยู่ที่เราแล้วแต่ละปี ก็มั่นคงดี นอกเหนือจากธุรกิจอื่นๆที่เราทำ ร้านอาหาร โน่นนี่นั่น ก็มองตรงนี้มั่นคงยั่งยืนอยู่ไปได้ตลอด”
ด้าน แอน บอกว่า “เขยจันทร์เกิดตอนหลังคลอดลูก ไม่อยากให้เขาทำงานคนเดียว วันหนึ่งงานแสดงดร็อปไป เราต้องมีอะไรที่มั่นคง แอนก็อยู่บ้าน ทำธุรกิจไปด้วย หาเงินอีกทางหนึ่ง เริ่มจากปลาหมึกแดดเดียว ส่งไรเดอร์ เริ่มทำแล้วขายดี แล้วก็ต่อยอดไปอีก”
โดยพาชมบ้านสวนแบบง่ายๆ ชาคริต เล่าว่า “ด้วยความที่นี่รอบๆเป็นชาวสวนหมด ทุกวันมีการใช้ไฟให้น้ำฉะนั้นต่อให้ไฟมี3เฟสก็จะมีไฟตก เรามาก็ขอความสะดวกสบาย สำหรับ ชาคริต เพราะคนเมือง ต้องมีเครื่องทำน้ำอุ่น ฝักบัวเรนชาวเวอร์ สุดท้ายน้ำไม่ไหล จบด้วยเอาถังมาใส่ ทุกวันนี้อาบน้ำขัน จ้วงเอา”
พร้อมพาไปดูห้องน้ำแบบเรียบง่าย แอน เล่าว่า “มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ไฟใช้ไม่ได้ แล้วมีถังเพื่อเติมน้ำ ช่วงแรกชาคริตต้องต้มน้ำมาผสมอาบ พอหลังๆ เขาบอกว่าไม่ต้องแล้ว เดี๋ยวนี้กลายเป็นติด ไม่อาบน้ำอุ่นแล้ว อาบน้ำขันตัก” งานนี้เปิดใจแม่ยาย
ชาคริต พูดถึงลูกเขยว่า “สุดยอด ตั้งแต่มาเป็นเขย แม่สบายทุกอย่าง ลูกเขยเป็นพ่อบ้านทั้งหมดเลย ” ถามว่าตอนแรกที่แม่รู้ว่าที่ลูกเขยแม่คือชาคริต แม่รู้สึกยังไง แม่ตอบเลยว่า “แม่เครียด (หัวเราะกันทั้งรายการ) เพราะแม่อยู่ในชมรมนักข่าวจันทบุรีด้วย เขาว่าเด็กจันท์แต่งงานกับชาคริต แย้มนาม ลูกใครว่ะ แม่ก็เฉย มันไปรู้มาจากไหนว่ะ”
แอน เล่าว่า “วันนั้นแม่ไปงานต้องนั่งรถบัสจากจันทบุรีไปน่าน แล้วเขาพูดกันในรถ ชาคริตแต่งงานกับคนจันท์ ใครว่ะ แม่ก็นั่งอยู่ แม่รู้แล้วแต่ยังไม่รู้ข่าวจะออกไป”
แม่ยาย เล่าด้วยว่า “เขามาขอ ลูกสาวแม่ก็อายุเยอะแล้ว กลัวจะไม่มีสามี มาเป็นคนนี้แล้วจะไปกันรอดมั้ยเนี่ย เพราะประวัติเขาแม่ก็พอดูอยู่บ้าง ไม่เลื้อย เป็นไม้เลื้อย เพื่อนก็เล่าให้ฟัง ไม่อยากรู้ สู้มาประสบกับตัวเอง ลูกเขยคนนี้รอดมาถึงเราได้ไงเนี่ย แม่ไม่ได้ชมนะ แต่ดีจริงๆ ดีทุกอย่างเลย”
“อย่างสวนแม่ตรงนี้ แม่อาชีพรับราชการมาตลอด แม่ไม่เอาแล้ว แม่อยากจะกินบำนาญอย่างเดียว พอน้องแอนแต่งงาน ที่ไหนได้ลูกเขยชอบ แม่ปรบมือเลย เอาไปเลยลูก(ป๋อ ถึงกับแซว ชาคริต คุณเป็น อภิชาตเขย)”
ถามแม่ว่า ชาคริต คลั่งรักเมียสุดๆยังไงแม่ แม่ยาย ก็เล่าสุดฮาว่า “แม่ก็เป็นชนบทเนาะ เขาก็จะกอดกันจูบกัน ไม่อายใครเลยเนาะ แม่ก็บอกแอนแต่ไม่กล้าว่าลูกเขยหรอก แอนก็บอกแม่มันสมัยไหนแล้ว เราก็เออๆ ปล่อยตามสบาย ตลอดเวลา ก็ในห้องทำไมไม่กอดกันให้พอ (หัวเราะทั้งรายการ ) จุ๊บปากกันอีกแล้ว แม่ก็งงไม่เคยเห็น”
โทรหาเมียตลอดเวลา ชาคริต บอกว่า “ไม่มีใครให้โทรหา ก็จะถามว่าทำอะไรอยู่ เพราะเราขาดความอบอุ่นมั้ง ทุกคนอยู่กันที่บ้าน ทำอะไรกันอยู่ ตัวเราเลือกได้อยากอยู่กับเขาที่บ้าน ช่วงเบรกถ่ายงานก็จะโทรหา เขานับด้วยเป็นอะไรมั้ยวันนี้รอบที่เท่าไหร่แล้วโทรมา”
ส่วนความติดภรรยาสุดๆ แอน เล่าว่า “ไปจีนได้วันเดียวโทรมา ที่รักฉัน Homesick มากแล้ว (ป๋อทำท่าแซวบอกคลั่งเหลือเกิน)” ชาคริต บอกด้วยว่า “บอกตรงๆ ไม่เคยห่างกันเกินคืนหนึ่ง ไปถ่ายละครก็ตีรถกลับ ไม่ค้าง”
เมื่อถามแม่ว่าลูกสาวมีอะไรดีชาคริตถึงหลงใหลขนาดนี้ แม่ตอบเลยสุดช็อตฟีลอีกแล้วว่า “แม่ดูว่าลูกเขยขาดความอบอุ่น เขาใกล้ชิดกันตลอดเวลา เวลาห่างก็โทรหาตลอดเวลา แม่ก็ไม่ได้คิดอะไร ครอบครัวเขาเราไม่เคยเจอ ดีแล้วเป็นหน้าที่ของลูกไป”
ส่วนเรื่องลูกคนที่สอง ชาคริต ตอบว่า “เคลียร์คัตแล้วตัดสินใจไม่เอาแล้ว ด้วยอายุด้วยอะไร น้องโพธิ์ก็มหัศจรรย์แล้ว ถึงเวลาเที่ยวดีกว่า เพราะเราพยายามแล้ว ไม่ว่าทางธรรมชาติ หรือ วิทยาศาสตร์ แต่เขาไม่อยากมา แต่ไม่แน่พูดไปแบบนี้อาจจะมา”
ขอบคุณข้อมูล: ตีท้ายครัว