จากประเด็นข้อพิพาท ไทย-กัมพูชา ได้กลายเป็นเรื่องราวบานปลายเกิดขึ้น จนกระทั่งล่าสุด ทางสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวคำปราศรัยพิเศษในการประชุมกับสมาชิกสภาจังหวัด สภาเทศบาล สภาอำเภอ สภาตำบล และสภาเทศบาล ในจังหวัดพระวิหาร โดยบางช่วงของการปราศรัย สมเด็จ ฮุน เซน
ได้กล่าวถึง แม่ทัพภาค 2 ของไทยอย่าง พลโท บุญสิน พาดกลาง ด้วยว่า “ข้าพเจ้าขอแจ้งให้ประชาชนชาวไทยทราบว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ถือว่าประเทศไทยเป็นศัตรู
และข้าพเจ้าก็ไม่ได้ถือว่าคนไทยเป็นศัตรู แต่ข้าพเจ้าก็ต้องเผชิญกับความจริงเช่นกัน พวกท่านมองว่าข้าพเจ้าเป็นศัตรู ข้าพเจ้าเองก็ต้องถือว่าพวกท่านเป็นศัตรูเช่นกัน”
สมเด็จ ฮุน เซน กล่าวเสริมว่า “ใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นชาวเขมรหรือชาวต่างชาติ หากพวกเขามองว่าข้าพเจ้าเป็นศัตรู ข้าพเจ้าไม่มีทางเลือกอื่น เพราะไม่มีทางเลือกที่สามสำหรับข้าพเจ้า”
โดยเขาบอกว่า ไม่มีใครสามารถหลอก ฮุน เซน ได้ และไม่มีใครสามารถเอาเปรียบ ฮุน เซน ได้เช่นกัน คำพูดนี้กล่าวถึงนายกฯ ไทย ว่าอย่าเล่ห์เหลี่ยมกับ ฮุน เซน เรื่องปัญหาพรมแดน
สมเด็จ ฮุน เซน ยังถือว่า การกระทำของนายกฯ ไทยที่สนทนากับ สมเด็จฯ ฮุน เซน และได้กล่าวโจมตีแม่ทัพภาค 2 ของตัวเอง ถือเป็นการกระทำที่กบฎชาติ
เนื่องจากหากเป็นที่กัมพูชา จะไม่อนุญาตให้ใครดูถูกกองทัพ หรือแม่ทัพ สมเด็จ ฮุน เซน ถือว่า คำพูดดูถูกแม่ทัพภาค 2 ของนายกฯ แพทองธาร
เท่ากับเป็นการดูหมิ่นเบื้องสูง เพราะแม่ทัพภาค 2 ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์ ฮุน เซน ย้ำว่า ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน
ตนไม่เคยพูดถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยเลย ยกเว้นวันนี้ เหตุผลที่ไม่เคยพูดถึงแม่ทัพไทยคนนี้เลย ตนเข้าใจถึงความมุ่งมั่นของแม่ทัพในการปกป้องประเทศชาติ
เพราะไม่ว่าแม่ทัพกัมพูชาหรือประเทศไหนก็ตาม จะต้องมีอุปนิสัยที่ไม่อาจก้มหัวให้ใครได้ สมเด็จ ฮุน เซน กล่าวต่อไปว่า ตนเองไม่ได้ดูหมิ่นหรือคิดร้ายแม่ทัพไทยคนใดเลย
แต่สงสัยว่า ทำไมนายกรัฐมนตรีของไทยจึงกล้าดูหมิ่นแม่ทัพของตัวเองเพื่อเอาใจตน ทั้งที่ตนไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องราวภายในของไทยเลย
ขอบคุณข้อมูล: pptvhd36