เรียกได้ว่าหลังจากที่ พล.อ. ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกแถลงการณ์ รัฐบาลกัมพูชา ไม่เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ที่กรุงพนมเปญ โดยประกาศขอใช้ช่องทางทางกฎหมายระหว่างประเทศ
ยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ส่ง 4 พื้นที่ “ช่องบก-ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาเมือนโต๊ด-ปราสาทตาควาย” ขึ้นสู่ศาลโลก แทนการเจรจาทวิภาคีกับไทย
แม้ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา จะขึ้นๆ ลง ๆตามนโยบายของรัฐบาลแต่ละยุคสมัย แม้แต่ในยุคที่อดีตผู้นำรุ่นพ่อ-รุ่นลูก จาก “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี
และ สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา มาสู่รุ่นลูก “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯ และ พล.อ.ฮุน มาเน็ต นายกฯกัมพูชา
จะมีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับเริ่มกลับมาร้อนระอุอีกครั้ง หลังมีข้อพิพาทและเกิดการปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา
จนถึงขณะนี้ยังคงมีการตรึงกำลังตามแนวตะเข็บชายแดนต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังทหารของฝ่ายไทยหรือกัมพูชา ไม่มีฝ่ายใดอยากสู้รบ
เพราะจะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสิ้น แต่ในแง่การเตรียมความพร้อมของทหารไทย ยืนยันได้ว่า พร้อมรับทุกรูปแบบ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีการตรึงกำลังตามปกติ
ไม่ได้อยากเปิดสงคราม หากไม่มีความจำเป็น กองทัพบก ไม่ต้องการให้รบ ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียกำลังพล
ล่าสุด ทาง บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยขวัญใจมหาชน ได้ออกมาเคลื่อนไหวปมชายแดนไทย-กัมพูชา
พร้อมลงแคปชั่นว่า “#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่พี่น้องทหารของเรา ในการรักษาอธิปไตยของประเทศไทย🇹🇭#กองทัพบก”
ท่ามกลางชาวเน็ตที่เข้ามากดไลท์นับแสน พร้อมส่งกำลังใจให้กับทหารไทยทุกคนด้วย
ขอบคุณข้อมูล: Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ)