Please Enable JavaScript in your Browser to visit this site

หมอโอ๊ค เตือนโควิดกลับมาระบาด เช็กสัญญาณอันตราย ถ้ามีรีบไป รพ.ด่วน

ยังคงน่าเป็นห่วง! หลังโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง โดยนพ.ศุภฤกษ์ วิจารณาญาณ หรือ หมอโอ๊ค เจ้าของเพจ หมอโอ๊ค DoctorSixpack ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “โควิด กลับมา ระบาดหนัก ส่วนมาก อาการไม่หนัก แต่กลุ่มเสี่ยง เสียชีวิตได้ เช็กด่วน สัญญาณอันตราย ถ้ามี อาจตาย ไปรพ. ด่วน”

พร้อมกับอธิบายเพิ่มเติมว่า “สัญญาณอันตราย ที่ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที แม้ช่วงแรกจะอาการเบา แต่เพื่อนๆ อย่ารอให้ทรุด เพราะ “โควิดสายพันธุ์ XEC” มีลักษณะคืออาการจะหนักในวันที่ 4–7 หลังติดเชื้อ หมอโอ๊คขอแบ่งเป็น 2 กลุ่มชัดๆ ครับ

กลุ่มอาการทั่วไปที่ควรเริ่มจับตา

• ไข้สูง > 38.5 องศานานเกิน 2 วัน

• ไอไม่หยุด ไอแรง ไอแล้วเจ็บหน้าอก

• หายใจเร็ว เหนื่อยง่าย แม้ไม่ได้ทำกิจกรรม

• รู้สึกเบลอๆ สมองช้า คิดอะไรไม่ออก

• ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อรุนแรง เหมือนร่างกาย “โดนดูดพลัง”

หากมีอาการเหล่านี้ให้เริ่มเตรียมตัวตรวจซ้ำหรือขอปรึกษาแพทย์ทันที

กลุ่มอาการวิกฤต ต้องรีบไป รพ. ทันที

• หายใจไม่ทัน เหมือนขาดอากาศแม้แค่นั่งเฉยๆ

• แน่นหน้าอก ใจสั่น

• ซึมมาก ง่วงผิดปกติ พูดไม่รู้เรื่อง

• ปากเขียว ปลายมือปลายเท้าเย็นจัดหรือเขียว

• ปัสสาวะน้อย หรือไม่ถ่ายปัสสาวะเลยนานเกิน 8–10 ชม.

• มีอาการชัก หรือหมดสติ

• เด็กเล็กมีอาการร้องไห้เสียงแหบ หายใจครืดคราด หรือดูดนมได้น้อยลงอย่างชัดเจน

อาการเหล่านี้ไม่ควรรอ ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที หรือโทร 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน

หมอโอ๊คสรุปสั้นๆ: กลุ่มเสี่ยงต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด และถ้าเริ่มมีอาการเตือนต้องรีบสังเกตและขอความช่วยเหลือเร็วที่สุด อย่ารอให้ทรุด เพราะบางคนทรุดเร็วในคืนเดียวครับ
ใครอยากได้

• “ตารางเช็กอาการโควิดฉบับหมอโอ๊ค”

• “คู่มือดูแลกลุ่มเสี่ยง”

พิมพ์มาเลยว่า “ขอคู่มือสังเกตอาการโควิด 2568” 📃👇🏻”

กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสอาการรุนแรงหากติดโควิด แม้ว่าสายพันธุ์ XEC ที่ระบาดอยู่ในไทยตอนนี้จะทำให้คนส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง แต่กับ “กลุ่มเสี่ยงบางกลุ่ม” เมื่อรับเชื้อแล้ว ร่างกายอาจรับมือไม่ทันจนเกิดอาการรุนแรง ต้องนอน รพ. หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ครับ

1. เด็กเล็ก โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 1 ปี

• ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์

• ปอดและระบบทางเดินหายใจยังเล็กมาก ติดเชื้อแล้วลงปอดได้เร็ว

• เด็กบางคนแสดงอาการช้า พอป่วยแล้วทรุดไวมาก

• สังเกตยาก เพราะยังพูดไม่ได้

สัญญาณที่พบบ่อยในเด็กเล็ก:

• ไข้สูงเกิน 38.5 องศา

• หายใจเร็วหรือมีเสียงครืดคราด

• กินนมน้อยลง ซึม ง่วงผิดปกติ

• ปากเขียว เล็บม่วง ปลายมือปลายเท้าเย็น

2. ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

• มีการเสื่อมของระบบภูมิคุ้มกันตามวัย

• มักมีโรคร่วม เช่น ความดัน เบาหวาน โรคหัวใจ

• อาการอาจไม่ชัด แต่ทรุดไว เช่น ไม่ค่อยพูด ซึม นอนมากผิดปกติ

• การตอบสนองต่อไวรัสช้ากว่าคนหนุ่มสาว

3. ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง

• เบาหวาน: น้ำตาลสูงทำให้เชื้อไวรัสแบ่งตัวได้ดีขึ้น และภูมิต้านทานทำงานช้าลง

• ความดันโลหิตสูง: มีภาวะหลอดเลือดแข็ง เสี่ยงภาวะแทรกซ้อน

• โรคหัวใจ: เชื้อไวรัสกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักมากขึ้น

• โรคไตเรื้อรัง: ขับของเสียช้า ภูมิอ่อน

• โรคปอด: เช่น ถุงลมโป่งพอง หรือหอบหืด จะยิ่งเสี่ยงหายใจลำบากมากขึ้น

4. ผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ

• ผู้ที่รับยากดภูมิ เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง, SLE, โรคข้ออักเสบเรื้อรัง

• ผู้ติดเชื้อ HIV ที่คุมเชื้อไม่ดี

• คนที่นอนดึก เครียดเรื้อรัง พักผ่อนน้อย จัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยครับ (เพราะภูมิตกแบบซ่อนเร้น)

5. หญิงตั้งครรภ์

• ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน

• ระบบไหลเวียนเลือดและปอดทำงานหนักอยู่แล้ว

• มีโอกาสเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือคลอดก่อนกำหนดหากติดโควิด

อาการเหล่านี้ไม่ควรรอ ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที หรือโทร 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน

ขอบคุณข้อมูล: หมอโอ๊ค DoctorSixpack

You cannot copy content of this page