จากเหตุการแผ่นดินไหว ส่งผลให้หลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน จนอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่กำลังก่อสร้างพังถล่มลงมาทั้งหมด จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ล่าสุด นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. กล่าวถึงการแจ้งเตือนหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ล่าช้าว่า ตอนแผ่นดินไหวเวลาประมาณ 13.20 น.
ปภ.ก็ส่งข้อมูลมาให้ กสทช.ตอนประมาณบ่าย 14.44 น. จากนั้นเวลา 14.45 น. เริ่มส่งเอสเอ็มเอส แต่เอสเอ็มเอสมีข้อจำกัด เพราะศูนย์ของคอลเซ็นเตอร์ที่จะส่งข้อความก็อยู่บนตึกเช่นกัน
เมื่อแผ่นดินไหวก็ต้องลงจากตึก อีกทั้งทางเทคนิคการส่งเอสเอ็มเอสจะส่งได้ครั้งละไม่เกิน 2 แสนเบอร์ โดยต้องขีดวงพื้นที่ที่จะส่งก่อน ถึงจะส่งได้ 2 แสนเบอร์
โดยแต่ละค่ายมือถือมีลูกค้าประมาณ 50 ล้านเลขหมาย จึงต้องใช้เวลา ซึ่งจะไม่เหมือนระบบการแจ้งเตือนภัยพิบัติที่ กสทช.กำลังทำ เมื่อส่งข้อความจะได้พร้อมกันทั้งหมด
แต่ตอนนี้ยังใช้ระบบเดิมที่ต้องส่งทีละเบอร์ และใช้เวลากว่า “ระบบการแจ้งเตือนภัยพิบัติจะทำแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ของปี 2568 หรือประมาณเดือนมิ.ย.68
หากทำระบบเสร็จ ปภ.จะเป็นผู้ส่งข้อความได้เลย เราพร้อมจะกระจายสัญญาณให้อยู่แล้ว ตอนนี้จึงต้องใช้แผนสำรองด้วยการส่งเอสเอ็มเอสแทน”
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า หากเกิดเหตุใหญ่ขึ้นอีก มีแผนสำรองด้วยการให้ใช้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจให้เตรียมตัว 24 ชั่วโมง
เพื่อเตรียมพร้อมในกรณีเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก นอกจากนี้มีศูนย์สายลม วิทยุสมัครเล่น ให้ช่วยแจ้งเตือน และยังมีเอสเอ็มเอสชั่วคราวที่จะช่วยส่งข้อความให้ก่อน ในช่วงที่ ปภ.ยังทำระบบไม่แล้วเสร็จ
