อ.จุฬา เปิดสาเหตุ ทำไมอาคารสูง ใน กทม.ถึงสั่นรุนแรง หลังแผ่นดินไหวเมียนมา

วันนี้ 28 มี.ค. 68 เกิดนาทีระทึก แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงหลายพื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ รับรู้แรงสั่นไหว และทำให้ตึกที่กำลังก่อนสร้าง ย่านจุตจัตรถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

ล่าสุด ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โพสต์คลิปลงเพจ มิตรเอิร์ธ – mitrearth

หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมียนมา เผยว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ตอนกลางประเทศเมียนมา รอยเลื่อนนี้อย่างที่เคยบอกหลายครั้งแล้วว่า

เป็นรอยเลื่อนที่นานๆเกิดที แต่รุนแรง ความรุนแรง 7 กว่าก็เคยเกิด และเคยรุนแรงถึง 8 ซึ่งรอยเลื่อนนี้น่าเฝ้าระวังในพื้นที่บ้านเรา

ตอนนี้ทุกท่าน โดยเฉพาะพื้นที่ราบลุ่มภาคกลาง ควรเฝ้าระวัง เพราะถ้าแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ที่พม่า ไม่ได้บอกว่าจะเกิด แต่ถ้าเกิดอาฟเตอร์ ช็อก ใหญ่สุดจะอยู่ที่ 6.6 หรือ 6.7 ถือเป็นภัยพิบัติ

ทำไมที่ราบลุ่มภาคกลางตอนล่างถึงรู้สึกรุนแรงมาก สาเหตุเป็นการสั่นพ้อง เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดที่เมียนมา อยู่ไกลจากพื้นที่ราบลุ่มภาคกลางตอนล่าง

คือ กรุงเทพ และ ปริมณฑล เพราะฉะนั้นทำให้อาคารสูงในกรุงเทพ และปริมณฑล สั่นพ้องค่อนข้างพอสมควร นี่คือเหตุผลที่อาคารสูงรู้สึก ซึ่งถ้าอยู่ใกล้จุดศูนย์กลาง อาคารสูงจะไม่รู้สึก

เบื้องต้นในแง่ภัยพิบัติยังไม่สงบเต็มที่ อาฟเตอร์ช็อก หรือแผ่นดินไหวตามจะเกิดขึ้นถึง 6 กว่า ซึ่งต้องเฝ้าระวัง

ศ.ดร.สันติ ยืนยันว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้จะไม่มีสึนามิ และ ไม่ส่งผลต่อทุกรอยเลื่อนในบ้านเรา อย่างไรก็ตามต้องเฝ้าระวังในช่วง 2-3 วันนี้

ทั้งนี้ อ.สันติ เผยอีกว่า อาฟเตอร์ช็อกมาแล้ว ระดับ 6.4 และ ต่อไปจะเล็กลงเรื่อยๆ วันนี้อาคารสูง ยังไม่ควรอยู่ สถานการณ์แบบนี้ พรุ่งนี้หรือวันมะรืน ก็เข้าสู่ภาวะปกติครับ

ขอบคุณข้อมูล : มิตรเอิร์ธ – mitrearth