เรียกได้ว่าวันนี้ที่กระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการะทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4-5 มาตรการ
เพื่อเป็นมาตรการช่วยผลักดันเศรษฐกิจในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดของมาตรการนั้น ยังจำเป็นต้องมีการพิจารณาในคณะอนุกรรมการชุดนี้อีกครั้ง
ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะต้องเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป นายจุลพันธ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา
อาทิ โครงการโอนเงิน 1 หมื่นบาทเฟส 3 ที่จะเริ่มโครงการได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 โดยโครงการดังกล่าวนั้น จะเป็นการแจกเงิน 1 หมื่นบาท
ให้กับคนที่ลงทะเบียนผ่าน แอพพลิเคชัน ทางรัฐ และมีคุณสมบัติตามที่กำหนด อาทิ มีรายได้พึงประเมินในปีภาษี 2566 ไม่เกิน 8.4 แสนบาท และมีเงินในบัญชีสถาบันการเงิน ไม่เกิน 5 แสนบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
“การแจกเงิน 1 หมื่นบาท เฟส 3 จะแตกต่างจากสองเฟสแรก โดยเฟสที่หนึ่งแจกให้กับคนถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนถือบัตรคนพิการ 1.4 ล้านคน เฟสที่สองแจกให้กับคนสูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 3 ล้านคน
โอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ โดยผู้ที่ได้รับเงินสามารถถอนออกมาเป็นเงินสดใช้จ่ายที่ใดก็ได้ ส่วนเฟส 3 จะเป็นการแจกเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้
แต่สามารถใช้จ่ายได้ตามร้านค้าที่มีการลงทะเบียนไว้กับกระทรวงการคลัง และจะต้องใช้จ่ายในรอบแรก อยู่ภายในเขตอำเภอตามบัตรประชาชนของแต่ละคนเท่านั้น”