ต้องบอกเลยว่าก่อนหน้านี้เปิดลงทะเบียนไปเมื่อปลายปี 2565 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บางคนคุณสมบัติหลุดจากเกณฑ์ บางคนก็ยังรอรอบใหม่ 2568
ซึ่งความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 กระทรวงการคลัง โดย กรมบัญชีกลาง ยังโอนเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 อย่างต่อเนื่องให้กับ ผู้ถือบัตรเก่าจำนวน 13.45 ล้านราย
โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 กรมบัญชีกลาง โอนเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนี้ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ (เป็นวงเงินสิทธิ์ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
-วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน (สำหรับผู้มีสิทธิ์ที่ยืนยันตัวตน 27 พ.ย. – 26.5.ค. 67 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 ม.ค. 66 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)
-วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ม.ค. – มี.ค. 685
-วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก รถไฟฟ้า และวัต โดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)
วันที่ 20 กุมภาพันธ์
เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยควา พิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนถิ่นตัวตน 27 พ.ย. – 25 ธ.ค. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง
โอนเงินเข้าบัญชีเงิน ลูกพร้อมเพย์ด้วยเลกประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิ์หรือบัญชีเงินผ่านธนาครัวของผู้มี ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท
ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่วันไหน
สำหรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ขณะนี้วันเวลาที่กำหนดลงทะเบียนรอบใหม่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง คีย ลง ทะเบียนเดือนมีนาคมผ่านแอปทางรัฐ ตามที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้
หลักเกณฑ์ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มเดิม คือ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนในปัจจุบันจำนวน 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ กระทรวงการ คลัง นำรายชื่อไปคัดกรองสิทธิอัตโนมัติ
กลุ่มผู้ลงทะเบียนใหม่ ราว 10 ล้านคน คือ กลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน ซึ่งมาจากประชาชนที่อายุครบ 18 ปี ที่ได้ลง ทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังมีกลุ่มตกหล่น จํานวน 8 แสน ที่ยังไม่มายืนยันตัวตน
เปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ ภายในเดือนมีนาคม 2568 ส่วนเงื่อนไขใหม่ กระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ไปดำเนินการปรับปรุงหลักเภอมที่ให้สอดคล้องกับภาพ เศรษฐกิจในปัจจุบัน