Please Enable JavaScript in your Browser to visit this site

รัฐบาลเอาจริง แก้ฝุ่นพิษ PM 2.5 เกษตรกร ยังดื้อเผา

เรียกได้ว่าวันนี้ น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นควันอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะการคุมเข้มสั่งห้ามเผา และการตรวจจับดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รายงานแนวทาง และขั้นตอนการแจ้งเตือนและป้องปรามเกษตรกรไม่ให้เผา ควบคู่กับการส่งเสริมวิธีการกำจัดเศษวัสดุทางการเกษตร

เช่น ไถกลบตอซัง ใช้จุลินทรีย์และอินทรียวัตถุ โดยในเบื้องต้นได้รับความร่วมมือจากเกษตรกร และเตรียมขึ้นบัญชีเกษตรกรที่ถูกตัดสิทธิ์ และไม่ปฏิบัติตามข้อสั่งการของรัฐ ซึ่งจะประกาศในเร็วๆ นี้

ด้านกรมป่าไม้ รายงานการจัดการไฟในพื้นที่ป่า พบว่า จ.กำแพงเพชร เกิดไฟป่ามากที่สุด และพบจุดความร้อนสะสมในภาคเหนือมากที่สุด ขณะที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมรายงานจำนวนโรงงานรับอ้อยเผาเข้าหีบแต่ละภาคยังมีมาก

ซึ่งช่วงเดือนก.พ.-มี.ค. ของแต่ละปีเป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยจะเร่งเก็บผลผลิต แต่ภาพรวมปีนี้ลดลงจากปีก่อน โดยที่ประชุม ปภ.ช. ได้มอบหมายทุกจังหวัด นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานการทำงานร่วมกับ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ให้ทำงานเชิงรุก เข้าตรวจสอบ และแก้ปัญหาการสะสมของจุดความร้อนที่ยังสูงอยู่ โดยเฉพาะที่ จ.เพชรบูรณ์ และชัยภูมิ ขณะเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษได้เปิดเผยสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มจะบรรเทาลงในช่วงวันที่ 4-5 ก.พ. 2568

แต่หลังจากนั้นค่าฝุ่นจะมีแนวโน้มกลับมาสูงอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง

โดยต้องเฝ้าระวังจนถึงวันที่ 9 ก.พ.2568 เนื่องจากอากาศที่นิ่งและจมตัว เกิดสภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น ทำให้อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ ร่วมกับลมที่มีความแปรปรวนในช่วงนี้

โดยมีลมทิศใต้และตะวันออกเฉียงใต้พัดแทรกบางเวลา ส่วนลมทางตอนเหนือจะเป็นลมตะวันตก ประกอบกับข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่

You cannot copy content of this page