เรียกได้ว่าเป็นนักแสดง-ผู้จัดละคร ที่หันไปทำละครให้กับช่องโมโน สำหรับ นก จริยา ที่ล่าสุด นก ได้ออกมาพูดถึงอุตสาหกรรมวงการบันเทิงที่ดูเหมือนจะกำลังเจอวิกฤต หลายช่องลดปริมาณการผลิตละครลง-นำผลงานเก่ากลับมาวนฉายใหม่ซ้ำไปซ้ำมา
สู้ให้ละครกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง?
นก : ใช่ สู้เพื่องานที่เรารัก เพื่อครอบครัวของคนที่อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมบันเทิง แล้วสิ่งหนึ่งที่เราคิดตลอด คือคนไทยไม่ได้ไม่มีคุณภาพ
หรือด้อยไปกว่าต่างชาติ แต่ที่ผ่านมามันถูกตีกรอบ อันนี้เล่าได้ อันนี้เล่าไม่ได้ อันนี้แตะได้ อันนี้แตะไม่ได้ ซึ่งบางทีความเป็นสากลเขาเล่าได้เยอะกว่าเรา
ทุนเขาสูงกว่าเรา เขาได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเยอะกว่าเรา เรายกตัวอย่างเลยว่าเกาหลีเนี่ย ภาครัฐเขาส่งคนไปเรียนเพื่อนำอุตสาหกรรมต่างๆ ออกไป
เป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศ ซึ่งเราก็เห็นแล้วว่า K-Pop, ซีรีส์, หนัง เขานำ นั่นคือเป็นการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งจริงๆ เราขออนุญาตพูดเลยนะ
ว่าบ้านเราไม่เคยได้รับการลงทุนจากภาครัฐ เรื่องไหนดังก็ไปเกาะ เห็นไปเกาะเขา จริงๆ ถ้าคุณหันมาดูแลอุตสาหกรรมบันเทิงให้เต็มที่
ข้าวไทย อาหารไทย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นรูปแบบของคนไทย ที่เราจะไปนำให้คนต่างชาติเขามาเที่ยวเมืองไทยเนี่ย มันมหาศาล แต่เห็นงบที่ออกมาแล้วก็อยากร้องไห้
เหมือนว่าบ้านเราต้องรอให้สำเร็จก่อน แล้วผู้ใหญ่ถึงจะพุ่งเข้ามาหา?
นก : ถูกค่ะ อย่าง บุพเพสันนิวาส เห็นไหม ไม่ร่วมรบ ไม่ร่วมชูป้าย ไม่ร่วมสนับสนุนสินค้าไทย
ไม่ร่วมสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยไปกับเรา ตอนหนังสัปเหร่อดังก็เป็นยังไงล่ะ
ผู้จัดมีการคุยกันไหมว่าอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง?
นก : เราพูดเรื่องนี้กันมานานมากแล้วค่ะ เราว่า Vision ของผู้ใหญ่ ถ้าคิดได้ไวกว่านี้ 10-20 ปี แรงไปไหมอ่ะ (หัวเราะ) เราพูดความในใจ
แต่เป็นสิ่งที่จริง เพราะมันเป็นสิ่งที่เราคิดอยู่ในใจมาตลอดเลยว่าเด็กบ้านเราที่เก่งๆ ไปทำงานเมืองนอกหมดเลย กับอุตสาหกรรมไหนๆ ก็แล้วแต่นะคะ
แม้แต่อุตสาหกรรมบันเทิง แต่เกาหลีเขาส่งไปเรียน แล้วเอากลับมาทำงานที่เกาหลี แล้วส่งออกไปขาย อย่าง แดจังกึม
เรากินอาหารเกาหลีเป็นเพราะอะไร เพราะเราดูจากสื่อบันเทิงนี่แหละ ดู ลิซ่า เราก็ไปเกาะน้องต้อยๆ จริงๆต้องขอบคุณลิซ่านะคะ
ขอบคุณข้อมูล: matichon