Please Enable JavaScript in your Browser to visit this site

กมธ.กฎหมายฯ ชัดเจนแล้ว รื้อคดี แตงโม นิดา ได้หรือไม่

เรียกได้ว่าวันนี้ ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร มี นายกมลศักดิ์​ ลีวาเมาะ​ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ในฐานะประธาน กมธ. เป็นประธานการประชุม​ มีวาระพิจารณาศึกษาแนวทางการดําเนินการทางกฎหมายตามกระบวนการยุติธรรม

คดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม กรณีหากปรากฏพยานหลักฐานใหม่ หลัง นายอัจฉริยะ​ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กมธ. โดยเชิญบุคคลและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล

นายอัจฉริยะได้พูดถึงข้อร้องเรียนในช่วงแรกของการประชุมว่า ได้ถูกอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเรียกขึ้นไปพบ เมื่อปี 2565 ร่วมกับตำรวจชุดทำคดีแตงโม เพื่อขอไม่ให้ตนทำคดีแตงโม เนื่องจากต้องการให้ตนช่วยคนบนเรือคนหนึ่ง​ แต่ตนไม่ให้ตามคำขอ เพราะมองว่าเป็นการทำลายกระบวนการ ประกอบกับแตงโมเป็นดาราชื่อดัง

ไม่ใช่จะมาลงข้อหาแค่ประมาท​ และตามความเชี่ยวชาญของตนเห็นว่าคนที่ตกท้ายเรือ ไม่มีทางโดนใบพัดเรือได้​ ซึ่งได้เรียนอดีต ผบ.ตร.ไปถึงข้อสังเกตดังกล่าว แต่อดีต ผบ.ตร.ก็ยังยืนยันที่จะขอ เนื่องจากคนตายไปแล้ว แต่ตนไม่ยอม จากนั้นจึงถูกยัดข้อหามาโดยตลอด รวม 6 คดี แต่ได้ใช้พยานหลักฐานที่ได้พูดคุย

จนศาลอาญายกฟ้อง นายอัจฉริยะยังยืนยันว่า การเก็บพยานหลักฐานในคดีแตงโมมีข้อพิรุธหลายอย่าง ทั้งเรื่องการเก็บเส้นผม จากนั้นนายอัจฉริยะ​ได้เปิดภาพเส้นผม บาดแผล แสดงต่อ กมธ.เพื่อตอกย้ำว่าแผลไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ น่าจะเกิดจากของมีคม​ และทันทีที่​นายอัจฉริยะ​เปิดผลทางนิติเวช

​ เพื่อบอกว่า​ศพของแตงโมไม่มีบาดแผลอื่นนอกจากแผลที่ขาขวา​ ทำให้ นายอุดมวิทย์​ อริยสุนทร​ รองอธิบดีอัยการภาค 1 ยกมือทักท้วงว่า ประธานในที่ประชุมแจ้งแล้วว่า เรื่องนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล แต่หลักฐานที่กำลังเปิดอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล แต่นายอัจฉริยะยังอธิบายต่อว่า

ข้อพิรุธในคดีนี้ยังมีการแก้ไข GPS ของคนบนเรือ ที่ตำรวจแสดงหลักฐานเท็จในงานแถลงข่าว 26 เมษายน 2565 และยังมีการทำหลักฐานเท็จอีกหลายชิ้น ทำให้ประธานในที่ประชุมสรุปว่าการหยิบยกเรื่องแตงโมมาหารือในวันนี้เพราะต้องการรู้ว่ามีพยานหลักฐานใหม่ ที่จะนำไปสู่การรื้อคดีได้หรือไม่

และหากนำไปสู่การรื้อคดีได้ จะต้องเดินหน้าไปฟ้องหรือส่งเรื่องดังกล่าวให้หน่วยงานใด หลังประชุมต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่นายกมลศักดิ์จะแถลงว่า เนื่องจากคดีของดาราสาวแตงโมอยู่ในการพิจารณาของศาล กมธ.ไม่มีอำนาจไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม

การสืบพยาน กมธ.จึงพยายามสอบถามว่าพยานหลักฐานใหม่ที่อ้างว่าไม่ปรากฏอยู่ในสำนวนคดีคืออะไร ซึ่งนายอัจฉริยะได้หยิบยกสำนวนคดีที่ถูกฟ้องฐานหมิ่นประมาทมาอ้างอิง ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัยได้แสดงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์

เพื่อชี้ให้เห็นถึงพิรุธว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมาจากใบพัดเรือ นายมลศักดิ์กล่าวว่า หลักฐานที่นำมาเปิดเผยต่อที่ประชุมส่วนใหญ่เป็นหลักฐานที่เคยเปิดเผยที่อื่นมาแล้ว และเป็นข่าวไปแล้ว ไม่มีพยานหลักฐานใหม่ที่มาเปิดที่นี่เป็นครั้งแรก นายอัจฉริยะจึงได้ทำหนังสือถึงอัยการจังหวัดนนทบุรี อัยการภาคหนึ่ง และอัยการสูงสุด

เพื่อขอแก้ไขคำฟ้องก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำวินิจฉัย โดยรองอัยการภาคหนึ่งได้แจ้งต่อที่ประชุม กมธ.ว่า หนังสือดังกล่าวอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐาน ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอัยการ หากเห็นว่าหลักฐานที่ส่งมาไม่ปรากฏอยู่ในสำนวน สมควรที่จะแก้ไขคำร้อง ก็สามารถแก้ไขคำฟ้องได้

ขณะเดียวกัน นายอัจฉริยะยังได้ส่งหนังสือไปถึงกระทรวงยุติธรรม ซึ่งทราบว่าในวันที่ 16 ม.ค.นี้ จะมีการจำลองเหตุการณ์ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย “ยืนยันว่า กมธ.จะไม่ไปก้าวล่วง สำนวนคดีการประมาท ที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี แต่หลังจากนี้จะติดตามว่าพยานหลักฐานใหม่จะดำเนินการอย่างไร”

You cannot copy content of this page