Please Enable JavaScript in your Browser to visit this site

โตโน่ ภาคิน เปิดรายจ่ายสโมสร ต้องควักเงินตัวเองเยียวยาทีม

ถือว่าเป็นนักร้องนักแสดงมากฝีมืออีกหนึ่งคน สำหรับ โตโน่ ภาคิน ที่ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บshow จุดเปลี่ยนจากศิลปินสู่นักฟุตบอลอาชีพ และจากนักฟุตบอลอาชีพสู่ประธานสโมสรแบบไม่ทันตั้งตัวกับรายจ่ายของสโมสรเดือนละ 2 ล้านบาท

เป็นนักแสดง นักร้อง ล่าสุดเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ยังไง?

โตโน่ : ตอนนั้นเป็นช่วงโควิดครับ ผมถ่ายละครเรื่อง พระจันทร์แดง ของช่องOne แล้วเค้าอยากให้พระเอกกล้ามชัดๆ ตอนนั้นในกรุงเทพฟิตเนสมันปิดหมด ก็เลยปรึกษากับเพื่อนที่เป็นนักฟุตบอล เค้าบอกว่าฟุตบอลมันยังต้องแข่ง แล้วในสนามมันมีครบหมดเลย มันมีทั้งฟิตเนส

และมีการซ้อมภายใน ผมก็เลยไปอยู่ที่ราชบุรี ฟิตเนสมาถ่ายพระจันทร์แดง เพราะตอนเช้าเราฟิตเนส ตอนเย็นก็ไปนั่งดูทีมราชบุรีซ้อม ก็เลยได้มีโอกาสไปซ้อมด้วยกับเค้า และได้คุยเซ็นเป็นนักเตะอาชีพดีกว่า แต่เป้าหมายจริงๆ เราไม่ได้รับเงินเดือน เราต้องการมาช่วยทีมขายเสื้อ เพราะตอนนั้นแฟนบอลไม่สามารถเข้าสนามได้ ก็เลยมาช่วยหารายได้ เป็นการตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ

รู้ตัวไหมว่าหลงรักฟุตบอลตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

โตโน่ : ตั้งแต่เด็กครับ แต่ว่าในยุคผมฟุตบอลยังไม่เป็นอาชีพที่มั่นคงได้ มันต้องเรียนไปด้วย เตะบอลไปด้วย แล้วตอนนั้นหลีกอาชีพจริงๆ มันยังไม่มี ก็เลยไม่ได้เป็นความฝันว่าจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

ตอนนี้คุณได้เป็นประธานสโมสรฟุตบอล ?

โตโน่ : ครับ

ทำไมคุณถึงได้เป็นประธาน ?

โตโน่ : ผมเก่ง ตอนแรกจะเริ่มต้นก็เหมือนทั่วไปเหมือนสโมสรอื่นๆ เราก็มาเป็นนักเตะ เพื่อนผมเค้ามาเตะที่เกษตรศาสตร์ในปีนี้ แล้วบางคนใกล้จะเลิกเล่นแล้ว เราก็อยากมาซ้อมด้วยกัน ความทรงจำดีๆ ร่วมกับเพื่อน แล้วก็เหมือนเดิมอยากมาช่วยเกษตรศาสตร์ พอซ้อมไปสักพัก ในกรุ๊ปของทีม จะคุยกันว่า เงินเดือนไม่ออก เงินเดือนเลื่อน นักเตะ 30 คน สตาร์ฟ 10 คน แล้วทีมงานอีก 50 คน

ไม่ได้นานไหม ?

โตโน่ : 3 เดือนครับได้มาคนละ 5 พันบาท แล้วอีกคนก็มายืมผม 2 ล้าน บอกว่าจะต้องจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะ ผมก็ก็ถามกลับเค้าไป ฟุตบอลมันไม่ได้เตะกัน 1-2 เดือนนะพี่ มันเตะกันประมาณ 8 เดือน แล้วเดือนหน้าพี่จะเอาที่ไหนมาจ่าย เค้าบอกว่าผมไปหาขายที่ ผมก็เลยบอกว่ามันไม่ใช่แล้ว เราต้องพูดความจริงกับนักเตะในทีมนะ มันจะได้รู้ว่าชีวิตมันจะเจอกับอะไร

ผู้บริหารกลุ่มก่อนหน้านี้บริหารผิดพลาด ?

โตโน่ : ผมไม่รู้เลยว่าเพระอะไร 1. ผมไม่ใช่ตำรวจ 2. ผมไม่ได้เข้ามาจับผิดใคร เข้ามาเพื่อช่วยให้ 50 ครอบครัวนี้มีเงินจ่ายค่าเทอมลูก

จากนั้นโตโน่ทำอะไรต่อ?

โตโน่ : ทีนี้ทางบอร์ดบริหารนัดประชุมว่ากลุ่มทุนนี้ไม่ใช่แน่ๆ เราก็มาปรึกษากัน ที่โน่มาเป็นประธานให้ได้ไหม ผมรู้ว่ามันหนัก มันเป็นเรื่องใหญ่

จากที่ผ่านมาที่ประชุมกันต้นตอของการไม่จ่ายเงินเดือน มันมาจากกลุ่มนั่นใช่ไหม?

โตโน : ก็กลุ่มนั้นอยู่แล้ว เรื่องสัญญาไปคุยกันยังไงผมไม่รู้ แต่เรื่องสัจจะเป็นผู้ชายต้องมี ไม่ใช่เอาแต่เรื่องกฎหมายมาพูด คุณบอกว่าจะทำแบบนี้ แต่คุณไม่ทำ คุณหลอกเค้า คุณให้ความหวังเค้า รักผมผมมองว่ามันไม่ถูกแล้ว มันเป็นเรื่องของคำพูดคน แค่ทุกวันนี้คนไม่มีสัจจะ

พอมีคนยื่นข้อเสนอว่าให้เราเป็นประธานเราทำยังไง ?

โตโน่ : เราขอไปคิดก่อนประมาณ 1 อาทิตย์ ผมรู้ว่ามันหนักแน่ เพราะเดือนละ 2.3 ล้าน แล้วผมก็ยังไม่รู้เลยว่าเงินที่ให้เี่ราบริษัท เค้าบอกเราว่ามีบางส่วน

พอเข้าไปดูจริงๆ เหลือเท่าไหร่?

โตโน่ : 859 บาท บางคนผมไม่ได้สนิกับเค้าหรอก มันมีแค่ 2 ทางให้ผมเลือก คือ 1.จะช่วยเค้า หรือผมจะทิ้ง

แล้วคนอย่างโน่ ชอบการกุศล ช่วยเหลือคนอยู่แล้ว และเพิ่งไปดูมาว่าก่อนหน้านี้มีเงินสปอนเซอร์?

โตโน่ : ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ทีมฟุตบอลมีสปอนเซอร์

ก้อนใหญ่ด้วย?

โตโน่ : ผมไม่ทราบครับ ไม่รู้ว่าก้อนเท่าไหร่ไม่เคยได้ไปถาม รู้แค่ตอนที่ผมเข้ามี 859 บาท ก็อย่างที่ผมบอกพี่ผมมา ผมไม่ได้จับผิดเค้า ผมอยากให้เค้ามีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ

ก่อนที่จะรับเป็นประธานตอนนั้นปรึกษาใครบ้างไหม ?

โตโน่ : ปรึกษาครับ แต่บังเอิญช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมไปแช่ว่านพอดี ก็ปรึกษาหลวงพ่อ

เห็นว่ามีหนึ่งเงื่อนไขที่รับเป็นประธานสโมสร ?

โตโน่ : เค้าต้องให้สิทธิ์บริหารผม 100% ผมต้องเป็นคนตัดสินใจ ว่าเงินทุกบาทที่เรามี หรือที่เราหามาได้มันจะถูกเอาไปใช่จ่ายแบบไหน อะไรที่มากเกินไป หรืออะไรที่เยอะผิดปกติ เราก็ต้องตัดออก และไม่ใช่นักฟุตบอลที่โดนลดเงินเดือน ทีมหัวหน้าทุกคนก็ต้องโดนลเเหมือนกัน แม้กระทั่งเด็กเก็บบอลก็โดนลดเหมือนกัน เพื่อส่วนส่วนรวม ทุหคนต้องช่วยกันมันถึงจะรอด

วิธีการหาเงินของโตโน่คืออะไร ?

โตโน่ : ผมคิดว่าต้องขายเสื้อ พอแฟนบอลทราบหลังจากที่เราแถลงข่าว เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนที่รักเกษตรศาสตร์เค้าอยากจะสนับสนุน เค้าอยากช่วย เพราะเค้ารู้ว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะทีมเกษตรศาสตร์ ปัญหานี้เกิดขึ้นอีกหลายทีมที่หวังพึ่งแต่กลุ่มทุน ไม่ว่าจะมาจากทางไหนก็ตาม จะสีเทา จากการเมือง เราไม่รู้ครับ แต่ว่าฟุตบอลที่ดีๆ ที่เราเชียร์กัน มันมีแบบอย่างที่ดีที่ควรจะเป็น นั่นคือการซัพพอร์ตจากแฟนบอล สปอนเซอร์เป็นส่วนนึง

ซึ่งเราจะชนะไปทำไม เราจะหมดเงินเยอะไปทำไม ถ้ากีฬานั้นไม่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ใครเลย จริงๆ ฟุตบอลไม่ใช่เรื่องของการแพ้-ชนะ ฟุตบอลมันเป็นเรื่องของชีวิต ผมคิดว่าเราควรจะตั้งต้นกันใหม่ อะไรที่เราจะต้องปรับ โครงสร้างอะไรที่มันบิดเบี้ยว อะไรที่ทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น สื่อสารกันได้ชัดเจน เราต้องช่วยกันทำ ซึ่งเสื้อเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เรามีรายได้เข้ามา

ได้ข้อมูลมาว่าบางทีคุณเอาเงินจากทิปที่ไปเล่นคอนเสิร์ต มาโป๊ะเงินเดือนให้มันครบด้วย?

โตโน่ : มันจะมีบางคน สมมุติเงินเดือน 40,000 เค้าโดนลด 50% 20,000 เค้ายังอยู่ไหว แต่บางคนเงินเดือน 12,000 แล้วลด 50% เท่ากับเดือนนั้นมัน 6,000 มันอยู่ไม่ได้ ถ้าผมเติมให้ได้คนละ 2-3 พัน สัก 6-7 คน มันก็ไม่ได้ลำบากผมจนเกินไป

พี่ส้ม : เป็นคนไม่อินกีฬา แต่มีลูกชายที่ชอบเล่นฟุตบอล แล้วส้มเห็นข่าวโตโน่มาหลายอาทิตย์แล้ว แล้วรู้สึกอินมาก มันหายากนะกับคนที่จะมาทุ่มเท เพราะมันเหนื่อย แล้วกว่าจะมีวันนี้คุณคงสู้มาก เราก็ไม่ได้มีเงินอะไรเยอะแยะ แต่เราอยากจะสนับสนุน 50,000 บาท อยากให้ทุกคนสนับสนุนกีฬา นอกจากสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติแล้ว ยังทำให้ร่างกายแข็งแรง

ขอบคุณข้อมูล: คุยแซ่บshow

You cannot copy content of this page