Please Enable JavaScript in your Browser to visit this site

เผยอาชีพใหม่ จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม ชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้กลายเป็นประเด็นร้อนสนั่นโซเชียล สำหรับกรณีตลกชื่อดัง จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม ขึ้นป้ายทวงหนี้กลางห้างดัง จนเป็นข่าว ทำให้ชาวเน็ตหลายๆคนคอมเมนต์สารพัด ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็ได้ทยอยใช้หนี้เกือบหมดแล้ว

ล่าสุด จั๊กกะบุ๋ม ได้ไปออกรายการ คุยแซ่บโชว์ เปิดใจถึงเรื่องราวชีวิต หลังเจอมรสุมชีวิตลูกใหญ่ เขาบอกว่าไม่รู้ว่าโรคซึมเศร้าคืออะไร แต่ว่าอารมณ์ในช่วงนั้น มันรู้สึกเคว้งคว้าง กินไม่ได้นอนไม่ได้ทุกอย่างมัน ประเดประดังเข้ามาในหัวเราหมดเลย

อยู่กับไฟหัวนอนดวงเดียวให้ตัวเองตอบเรื่องราวทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นมันคืออะไรแล้วทำไมวันนี้เราโดนมรสุมลูกที่มันใหญ่จังเลย เราจะรับมือกับมันได้ไหม เราจะทำยังไงดี เราจะเดินหน้าต่อไปเราจะทำไงดี ภาษาสมัยนี้เขาจะเรียกว่าดิ่งใช่ไหม มันดิ่งมันดาว

สุดท้ายแล้วสิ่งที่มันเกิดขึ้น ถ้าทุกคนเขาไม่อยากจะให้โอกาสเรา เขาเห็นถึงความผิดที่มันเป็นความผิดในมุมมองของเขา คิดว่าความผิดที่เราทำมันเป็นเรื่องร้ายแรงสุดท้ายเขาอยากเห็นเราตายหรือเปล่าวะ

สุดท้ายเราต้องตายหรือเปล่าคิดไปถึงขนาดนั้นเลย ทุกคนต้องการภาพนั้นหรอ แล้วเราต้องทำแบบนั้นไหม ถ้าสิ่งๆนี้มันทำให้ทุกคนสบายใจผมยอมนะ

ถามว่าอะไรที่ทำให้มาจากความคิดเหล่านั้น มันมีโทรศัพท์สายหนึ่งเข้ามาจากพี่คนหนึ่ง ผมก็ต้องบอกว่าเขาเป็นคนที่เปลี่ยนชีวิตเหมือนกันขออนุญาตเอ่ยชื่อพี่ญาญ่า

พี่บ๋อมแล้วก็พี่บุ๋มทีมงานที่จัดเชิญยิ้มเชิญอร่อย โทรมาถามว่าทำอะไรอยู่เราก็บอกว่าไม่ไหวแย่มากเลย และแกจะทำยังไงต่อก็หาหนทางเจอ เพราะตอนนั้นผมมีที่ขายของคือที่อยุธยา

ขายของข้างหน้าตรงที่เขามาไหว้พระ นั่นคือที่ๆเดียว ที่ตอนนั้นผมมีรายได้อยู่ สมมุติว่าก็คุยกันไปกันมาถ้าฉันจะเปิดโอกาสให้แกมาขายในงานนี้แกจะมาไหม ผมไม่ปฏิเสธเลยผมบอกผมไป

เพราะผมเชื่อว่าถ้าผมมีโอกาสเพิ่ม ผมจะหารายได้ที่มันมากขึ้นกว่าเดิมได้ ผมรับปากตอนนั้นผมเหมือนทุบหม้อล้มเลย

ไปแล้วขอให้ตายในขณะที่เราได้สู้อีกซักทีเถอะวะ สู้กับมันไม่ได้คือไม่ได้ ลุย เพราะโอกาสนั้นเลยทำให้เราได้สู้ทั้งที่เรากำลังจะตายอยู่แล้ว ก่อนตายก็ขอฮึดสู้

และมันเหมือนชีวิตใหม่ผมเลย เพราะเหมือนที่ผมบอกวันแรกผมกลัวมนุษย์มากๆ แต่กลับกลายเป็นว่าวันที่ผมมาขายของวันแรกๆ มันเปลี่ยนโลกผมเลย

ทุกวันนี้ยังไปออกบูธขายปลาร้าทอด เพราะมีความสุขมากๆมันเป็นความดีใจในทุกวันที่ผมตื่น ตื่นมาเจอคน ผมไม่ได้มาเพื่ออยากจะขายของแต่ผมอยากมาเจอพลังงานบวกกับคนที่มาซื้อของ

พลังงานนั้นมันเป็นกำลังใจให้ผม ไม่ว่าผมจะทำอะไรก็แล้วแต่ ณ ปัจจุบันเนี่ยผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมได้รับมันเป็นพลังงานบวกมากกว่าพลังงานลบ

ขอบคุณข้อมูล : คุยแซ่บโชว์

You cannot copy content of this page