Please Enable JavaScript in your Browser to visit this site

น้องกันยา ลูกช้างป่าพลัดหลงโขลง กลับดาวช้างแล้ว

ตลอดหลายวันที่ผ่านมานั้นหลายคนส่งกำลังใจให้กับ พังกันยา หรือว่า น้องกันยา กันเป็นจำนวนมาก โดย น้องกันยา เป็นลูกช้างป่าที่พลัดหลงโขลง โดยก่อนหน้านี้ น้องกันยา เข้ารับการรักษาอาการป่วยด้วยโรคเฮอร์ปีส์ (EEHV) ซึ่งเป็นไวรัสที่มีความอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตในกลุ่มช้างอายุน้อยหรือลูกช้าง

โดยทางเฟซบุ๊ก “NuNa Silpa” ได้ออกมาอัปเดตอย่างต่อเนื่องว่า “เช้านี้คุยกับคุณภัทร เรื่องหนูน้อยกันยา…สรุปเป็นประเด็นอย่างนี้นะคะ

1. ทางคุณภัทรและทีมหมอของภัทร ห่วงใยสภาวะโรคไวรัสกับกันยามาตลอด..จึงเตรียมชุดปฏิบัติการพร้อมไว้เสมอ..อย่าลืมว่าเชื้อนี้มีอยู่ในลูกช้างเกือบทุกตัว..ยามใดที่ภูมิตกเชื้อก็จะฟูขึ้นมา เมื่อวานซืน อากาศในเชียงใหม่เปลี่ยนแปลงทั้งวัน อาจเป็นเหตุให้กันยาไม่สบาย

2. เมื่อน้องเริ่มมีอาการเมื่อวาน คือ ซึม กินน้อย หน้าเริ่มบวมนิดๆ จึงให้ยาต้านไวรัสทันที

3. คุณภัทร ประสานคุณหมอต้อม คชบาล ( ซึ่งช่วงเช้าก็ยุ่งกับการเคลื่อนย้ายน้องขุนเดชทุกคน)

4. ทางคชบาล เตรียมขอเลือดพังแม่ขอดไว้ให้น้อง…

5. เมื่อน้องมาถึง ดำเนินการรักษาทันที ให้ยาต้านไวรัสตัวที่ดีที่สุด ให้น้ำเกลือ ให้เลือด..

6. คุณภัทรบอกว่า คุณหมอและควาญ หลายๆทีมที่คชบาล อยากมาช่วยกันยาทุกคน เมื่อวานทีมควาญของพี่ทุก็มาช่วย.. คุณหมอครบทีมนำโดยหมอต้อม ทวีโภค และน้องหมอฝึกงานก็มากันหลายคน …

7. เช้านี้น้องออกมาเดินโต๋เต๋แป๊บนึง…ดูดีกว่าเมื่อวาน มีความอยากอาหาร

8. สำหรับแม่ๆที่ห่วงธาริน เมฆา วันนี้หมอทิพย์จะไปสว้อป และส่งตรวจทันที

9. เมื่อน้องกันยาหายแล้วกลับไป ทั้งแม่โมลาและกันยารวมทั้งพี่ควาญที่อยู่กับน้อง ต้องถูกแยกตัวเป็นเดือน

ดิฉันขอขอบพระคุณทุกๆท่านเลยนะคะที่ช่วยดูแลเด็กน้อยคนนี้.. เป็นการรวมใจของชาวช้างที่ดิฉันประทับใจมากอีกครั้งหนึ่ง..ขอบคุณพลังใจจากทุกสารทิศที่มีให้หนูน้อยกันยาค่ะ..ขอเวลาหนูหน่อยนะคะแม่ๆ…หนูจะหายดีและแข็งแรงค่ะ…”

จนล่าสุด (5 พ.ย.67) น้องกันยา ได้กลับดาวช้างแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 23.31 น. โดยมีการะบุว่า “น้องกันยาได้พักแล้วนะคะ น้องสู้ที่สุด..ขอหนูสู่ภพที่สูงนะลูก..”

และล่าสุดได้มีการเผยว่า “สำหรับแม่ๆที่อยากทราบเกี่ยวกับการจัดการกับร่างของน้องกันยานะคะ…หมอต้อมแจ้งว่า

1. ทำพิธีปัดภัย จากนั้นเคลื่อนย้ายพังกันยาไปที่อาคารผ่าซากเพื่อผ่าพิสูจน์ตามขั้นตอน ร่วมกันระหว่างคชบาล/กรมอุทยานฯ..

2. ส่งตัวอย่างตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ศูนยชันสูตรโรคสัตวภาคเหนือ จ ลำปาง..

3. ฝังร่างพังกันยาบริเวณภายในสถาบันฯ..

4. วันที่ 7/11 นิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีสวดบังสุกุล…

ส่วน stem cells ที่เตรียมมาเมื่อคืนจะนำไปให้พังวันดี (เป็นช้างบริจาคมาอยู่ที่คชบาล) ..ที่มีปัญหาสุขภาพการอักเสบเรื้อรังของระบบสืบพันธุ์..stem cells เก็บไม่ได้นานค่ะ..

ร่างน้องจะเป็นอาจารย์ใหญ่ให้ศึกษาเกี่ยวกับโรค EEHV type 4 นี้.. ส่วน stem cells ที่ป้าตั้งใจให้น้องก็เป็นประโยชน์กับชีวิตอื่น… นี่ก็จะเป็นผลบุญเพิ่มเติม..ส่งให้ดวงจิตน้องกันยาสู่ภพภูมิที่สูงนะคะ…”

เป็นข่าวที่เศร้าใจมากๆเลย อย่างไรก็ขอให้ น้องกันยา ไปอยู่ที่ดาวช้างอย่างมีความสุขนะ

ขอบคุณข้อมูล : NuNa Silpa

You cannot copy content of this page