Please Enable JavaScript in your Browser to visit this site

ขอเตือน ! รถน้ำท่วม ไม่อยากโดนประกันไม่รับเคลม ห้ามทำแบบนี้เด็ดขาด

จากอุทกภัยครั้งใหญ่ใน อ.แม่สาย จ. เชียงราย ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายอย่างหนักรวมถึงรถยนต์ที่จมน้ำ ที่ต้องรอประกันเข้ามาประเมินความเสียหาย ล่าสุด โจน่าทาน ดาวTikTok คนดัง ได้ลงพื้นที่นำสิ่งของใช้จำเป็นไปมอบให้กับชาวบ้าน

พร้อมกับเตือนคนที่มีรถยนต์จมน้ำด้วยว่า “รถที่จมน้ำมาห้ามสตาร์ทรถเด็ดขาด ต้องให้รถอยู่ในสภาพเดิมหลังจากน้ำท่วมเท่านั้น

หากเครื่องยนต์พังเพราะเราพยายามสตาร์ทประกันจะไม่รับเครม,ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ประกันให้มาเครมในสภาพเดิมเท่านั้นครับถึงจะเครมประกันภัยได้ครับ”

ซึ่งทาง วิริยะประกันภัย ยังเคยเผยว่า เมื่อรถอยู่ในสภาพที่เต็มไปด้วยน้ำเป็นเวลานานจากภัยน้ำท่วม

สิ่งที่สำคัญ คือ ขั้นตอนปฏิบัติที่ถูกต้องต่อชิ้นส่วนต่างๆทั้งภายในและภายนอกตัวรถ ซึ่งการปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องนั้น

จะช่วยรักษาส่วนประกอบต่างๆของรถให้เกิดความเสียหายในระดับที่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ข้อควรปฏิบัติ กรณีรถน้ำท่วม

1. ให้ถอดขั้วแบตเตอร์รี่ทันทีที่รถเข้าอู่

2. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก และน้ำมันพาวเวอร์ทันที

3. ทำความสะอาดภายในห้องเครื่องทั้งหมด

4. ถอดกรองอากาศออกมาตรวจสอบว่ามีน้ำอยู่หรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าอาจมีน้ำ เข้าไปยังชุดท่อรวมไอดีได้

ไม่ควรที่จะทำการสตาร์ทเครื่องยนต์เพราะอาจมีน้ำเข้าไปในห้องเผาไหม้และจะทำให้ก้านสูบคดได้

5. ให้ถอดหัวเทียน (เครื่องเบนซิน) หรือหัวฉีด (เครื่องดีเซล) ออกมาทุกสูบเพื่อทำการสตาร์ทไล่น้ำออกจากห้องเผาไหม้

6. ถอดล้างทำความสะอาดกล่องฟิวส์ กล่องควบคุมเครื่อง (ECU) กล่อง AirBag กล่องเกียร์ (ถ้ามี) และให้ถอดปลั๊กไฟออกมาฉีดน้ำยาไล่ความชื้นตามขั้วปลั๊กทั้งหมด

7. ทำความสะอาดภายในรถ ทำความสะอาดเบาะแล้วตากในร่ม (ห้ามตากแดด)

8. ถอดทำความสะอาดตู้แอร์ คอยล์เย็นแอร์ และถอดทำความสะอาดแผงนวมหน้าปัทม์มาตรวัดต่างๆในเรือนไมล์

9. ทำความสะอาดและตรวจสอบไดชาร์จ และมอเตอร์สตาร์ท

10. ถอดทำความสะอาดและตรวจสอบชุดลูกรอกสายพานไทร์มิ่งต่างๆ

11. ถอดทำความสะอาดฝ้าหลังคา

12. ถอดทำความสะอาดและตรวจสอบระบบเบรคทั้ง 4 ล้อ

กรณีเกียร์ออโต้

ตรวจสอบน้ำมันเกียร์ว่ามีน้ำปะปนในน้ำมันเกียร์หรือไม่ น้ำมันเกียร์ที่มีน้ำปนอยู่จะมีลักษณะคล้ายโยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่

ถ้าพบให้อู่ดำเนินการถอดเกียร์ออกจากเครื่องและให้นำทอร์คคอนเวเตอร์เอามาคว่ำแล้วล้างโดยการใส่น้ำมันเบนซินเข้าไป

แล้วหมุนทอร์คตามเข็มนาฬิกา ทำประมาณ 2-3 ครั้ง ส่วนตัวเกียร์ให้ทำการผ่าแล้วล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ และน้ำมันเฟืองท้าย

กรณีเกียร์ธรรมดา

ถอดหัวหมูออกแล้วทำความสะอาดชุดคลัทช์ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์และน้ำมันเฟืองท้าย

นอกจากนี้ กรณีรถน้ำท่วม เราจำเป็นจะต้องตรวจสอบระดับน้ำสูงสุดที่ท่วมตัวรถ

เนื่องจากปริมาณน้ำในระดับที่ต่างกัน จะมีผลต่อชิ้นส่วนที่ต้องตรวจสอบ และทำความสะอาดด้วย

ขอบคุณข้อมูล: โจน่าทาน,viriyah

You cannot copy content of this page