Please Enable JavaScript in your Browser to visit this site

ไม่ตลก ! รังสิมันต์ โรม โต้กลับตุลาการศาลฯ เรื่องยุบพรรคก้าวไกล

กลายเป็นประเด็นร้อนสำหรับกรณี ที่นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวในการบรรยายสัมมนาทางวิชาการที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อกรณียุบพรรคก้าวไกล “จริงๆ ต้องขอบคุณผมนะ มีการยุบพรรคเขา เห็นไหมครับ เขาได้เงินตั้งกี่ล้านภายในสองวัน ถ้าไม่ยุบเขาร้องไห้ฟรีเลยนะ ก่อนหน้านั้นเงินไม่มี ต้องขอบคุณผมนะ ทำให้เขามีเงินเข้าไปตั้ง 20, 30 ล้าน… ก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนตรงไหนเลย”

ล่าสุด นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า การยุบพรรคการเมืองใน พ.ศ.นี้ไม่มีสังคมไหนยอมรับโดยเฉพาะสังคมที่เจริญแล้ว พวกเรานักการเมืองเวลาไปพูดคุยกับพรรคการเมืองในต่างประเทศ ทั้งประเทศที่เป็นต้นแบบประชาธิปไตยและประเทศที่อยู่ระหว่างการพัฒนาประชาธิปไตย

ทุกคนล้วนแปลกใจกับการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้มีพรรคการเมืองจำนวนมากถูกยุบ เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ยืนยันว่านโยบายของพรรคก้าวไกล การเข้าชื่อเสนอกฎหมายของพรรคก้าวไกลเป็นเรื่องที่ทำได้

เมื่อการยุบพรรคเกิดขึ้นแล้ว ประชาชนที่มีความเห็นใจได้ไปสมัครสมาชิกพรรคประชาชนจำนวนมาก หลายคนบริจาคเงิน ซึ่งเป็นดำเนินการโดยภาคประชาชนที่เขารู้สึกว่าพรรคการเมืองนี้เขาเป็นเจ้าของ อยากผลักดันให้พรรคการเมืองนี้สามารถกลับมาตั้งหลักทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มภาคภูมิ ในฐานะผู้แทนของประชาชนโดยเร็วที่สุด

นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า เมื่อเทียบกับความเสียหายของการยุบพรรคมันมีมากกว่าเยอะ แต่ประชาชนทำในสิ่งที่พอจะทำได้ในการสนับสนุนพรรค ไม่ใช่เรื่องตลกหรือเรื่องที่สามารถเอามาพูดเล่นได้ว่าการยุบพรรคประชาชนทำให้มีรายได้ 20 ล้านบาท

ทำให้นักการเมืองที่มีคุณภาพที่น่าจะเป็นอนาคตของประเทศถูกตัดสิทธิทางการเมือง ส.ส.บัญชีรายชื่อถูกตัดสิทธิทำให้เราต้องแสวงหาสมาชิกใหม่ ไม่ใช่เพียงความเสียหายของพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่เป็นความเสียหายของประชาชนที่อยากเห็นการเมืองที่ต่อสู้ด้วยนโยบายและต่อสู้ทางความคิด การใช้กฎหมายยุบพรรคเป็นสิ่งที่ควรหมดไปได้แล้ว

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนรู้สึกตกใจกับความคิดของคนสั่งการให้มีการยุบพรรค ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเลย ทีเล่นทีจริง ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น เข้าใจว่าท่านจบนิติศาสตร์ มีความเข้าใจความรู้ทางกฎหมาย ปกติศาลควรจะตัดสินคดีที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ตนเองเป็นกลาง

ไม่ใช่เอาตนเองไปเป็นส่วนหนึ่งของคดีที่ตัดสิน ซึ่งจะทำให้เกิดคำถามว่าการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญตั้งบนความเป็นกลางจริงหรือไม่ ตั้งอยู่บนพยานหลักฐานหรือไม่ ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ทำให้พรรคก้าวไกลมีโอกาสในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่หรือไม่

สุดท้ายการตัดสินคดีนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานการเป็นศัตรูกับพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น ระบบกฎหมายจะมีปัญหา ทำลายความศรัทธาของพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น สำหรับผลกระทบ ประชาชนจะตั้งคำถามถึงการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ โดยสิ่งที่นักกฎหมายกลัวมากที่สุดคือ การตัดสินแล้วไม่จบ นำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นทางการเมือง

ทำให้การเมืองขาดเสถียรภาพเหมือนประเทศที่ไร้วิญญาณ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจการพัฒนาประเทศให้เติบโตแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะนักลงทุนไม่อยากมาลงทุน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำลายเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศชาติ คือ ผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับความเสียหายที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!