Please Enable JavaScript in your Browser to visit this site

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศทั้งน้ำตา อำลาในฐานะนักการเมือง หลังยุบพรรคก้าวไกล

กลายเป็นประเด็นที่หลายๆ คนให้ความสนใจ หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียง ยุบ พรรคก้าวไกล โดยเป็นผลมาจากคดีที่ คณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ (กกต.)​ มีมติเอกฉันท์เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี

ล่าสุด นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยปิดท้ายที่ลานกิจกรรม พรรคก้าวไกล โดยระบุว่า พวกเขาทำอะไรพวกเราไม่ได้ เราจะไม่ชินชากับการเมืองแบบนี้ เป็นเกียรติสูงสุดของชีวิตที่ผมได้มีโอกาสรับใช้ประเทศชาติ พี่น้องประชาชน

ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมพรรคมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล เป็นความรู้ที่จะไม่มีวันลืม วันนี้ ขออำลาพวกท่านในฐานะนักการเมือง ผู้แทนราษฎร และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย และพร้อมกลับมาในฐานะประชาชนที่สู้ไปพร้อมกับทุกคน

“แม้ว่าเขาจะตัดผม แต่เขาตัดผมออกจากประเทศไทยและประชาชนไม่ได้” นายพิธากล่าว จากนั้นแฟนคลับ ต่างตะโกนว่า “นายกฯ พิธา” เป็นเหตุให้นายพิธา เริ่มมีน้ำตา และปาดน้ำตา โดยบอกว่า “เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ”

จากนั้นนายพิธา จึงทำสัญลักษณ์มือเป็นรูปหัวใจ นายพิธา กล่าวด้วยว่า อยากบอกกับพี่น้องประชาชนให้มั่นใจ เพื่อน ๆ ที่สู้กันมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ พวกเขาจะสามารถทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีได้อย่างแน่นอน พี่น้องประชาชนจำได้หรือไม่

วันที่ทุกคนคิดว่าเราแพ้ เราชนะในเกมที่ถูกดีไซน์ให้พวกเราแพ้ เราชนะได้เพราะพวกท่านเชื่อในตัวเองว่า ทุกคนมีอำนาจเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ จงจำความรู้สึกวันนั้นไว้ “แม้ไม่มีผมในทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา หรือการเมืองไทย แต่ผมยังอยู่ในใจของพี่น้องประชาชน

และพี่น้องประชาชนยังเชื่อมั่นในพลังของตนเอง ประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแน่นอน” นายพิธากล่าว อยากให้พี่น้องประชาชนฟังคำของผมเอาไว้ เขาอยากได้อะไร เราจะไม่ให้พวกเขาเด็ดขาด ยุบพรรค ยุบโลโก้ ยุบสีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเค้ายุบความหลังของเราได้สำเร็จเมื่อไร

เท่ากับเรายกประเทศไทยใส่พานเงินให้เขาทันที นายพิธา กล่าวด้วยว่า เศร้า เสียใจได้แค่วันนี้วันเดียว พรุ่งนี้เราจะก้าวต่อไปเพื่อรัฐบาลที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ เราจะชินชากับเรื่องแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด พร้อมย้ำว่านี่เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ

เพราะได้ทำเต็มที่แล้ว ห้ามประชาชนชาชินโดยเด็ดขาด ระบอบที่คนทำรัฐประหารได้ดิบได้ดีเป็นรัฐมนตรี แต่คนที่ประชาชนเลือกมาถูกแบนจากการเมือง เราจะชนะจนกว่าเขาจะยอม ปี 2570 อย่างน้อยที่สุดต้องได้ 270 เสียง ถึงวันนั้นพิธา จะเป็นคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

พรรคก้าวไกลจะเป็นพรรคสุดท้ายที่โดนเลือกมาโดยประชาชนและถูกทำให้หายไปโดยไม่กี่คน เมื่อเรามีพลังมากๆขนาดนั้นก็ยกเลิกกฎหมายไปเลยว่า ต่อไปนี้จะไม่มีการยุบพรรคอีกต่อไปในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และที่สำคัญที่สุดจะไม่มีการทำรัฐประหารอีกต่อไป ให้อำนาจสูงสุดมาเป็นของประชาชน

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!