ประสบความสำเร็จอย่างมากเลยค่ะ สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” ของผู้กำกับคนเก่ง ต้องเต ธิติ ที่ตอนนี้กวาดรายได้ทั่วประเทศไปแล้ว 200 กว่าล้านบาท ซึ่งหนังเรื่องนี้บอกเลยว่ามีทั้งความซึ้ง ความฮา และน่ากลัว
ล่าสุด ต้องเต ก็ได้ออกมาเปิดความหมายสุดลึกซึ้งของสัญลักษณ์ทั้ง 15 จุด ที่แอบซ่อนเอาไว้ในเรื่อง
1.ข้าวจี่ไหม้
ยายที่แก่ชราตาแทบมองไม่เห็น แก่จนไม่รู้ความสุกพอดีกินของข้าวจี่ รู้แค่ว่าห่วงลูกหลาน ไม่สนใจว่าลูกหรือหลานตัวเองจะทำผิดหรือทำไม่ดีมาขนาดไหน รู้แต่ว่าอยากดูแลเขา มอบความรัก มอบความห่วงใย มอบความอบอุ่น / บางครั้งเราอาจแค่อยากกินข้าวธรรมดากับคนในครอบครัวธรรมดา ที่แสนจะพิเศษแค่นั้นเองครับ /นี่อาจเป็นความรักอันบริสุทธิ์ที่แท้จริงของคนที่อยู่ข้างๆ ความรักต้องรักษาด้วยความรัก
2.ลูกโป่งขาวลอย
สื่อถึงการหลุดลอย การปลดปล่อย จากความสุขและทุกข์ของคนที่ยังอยู่และคนที่จากไป
3.วงไฮโลในงานศพ
แสดงถึงเส้นเเบ่งระหว่างอารมณ์สนุกกับความเศร้า ของเจิดกับวงไฮโล เพื่อบอกเป็นนัยยะว่าถ้าความตายไม่ได้เกิดกับคนที่เรารัก เราก็จะยังมีความสุขต่อไปได้โดยที่บางทีเราอาจลืมนึกถึงเขาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
4.เจิด (ผู้ชายที่ทาเล็บ)
ในสมัยก่อนจะสื่อถึงการเเบ่งเเยกชนชั้นทางสังคม เเต่พอมาอยู่บนตัวเจิด ความหมายเเฝงที่ว่า เจิดที่จบกฎหมายกับการทำศพ เราจะไม่เเบ่งเเยกว่าใครเป็นใคร ทุกศพเราปฏิบัติด้วยความเท่าเทียมกัน
5.ส่อนขวัญ
พิธีทางความเชื่อของภาคอีสานที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีคนเจ็บไข้ได้ป่วยทางใจจะด้วยการประสบอุบัติเหตุก็ดี หรืออาการเจ็บป่วยก็ตาม โดยพิธีนี้มีความเชื่อว่า เมื่อบุคคลใดเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้นจะทำให้ขวัญหนีดีฝ่อ ไม่แจ่มใสเหมือนคนปกติ จึงทำให้ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะทำพิธีนี้ขึ้นเพื่อเป็นการนำขวัญและกำลังใจของคนๆ นั้นกลับมา
6.โยนกาละพฤกษ์
การหว่านกัลปพฤกษ์ในงานศพ เป็นการแสดงให้เห็นภาพว่า ในขณะที่มีผู้คนกำลังแย่งยื้อเงินทองกันอย่างวุ่นวายอยู่นั้น ศพที่ตั้งอยู่กลับไม่รู้สึกอยากได้เงินทองเหล่านั้นเลย ยังนอนสงบนิ่ง ผิดกับตอนมีชีวิตอยู่ ต้องออกแรงดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง อีกอย่างหนึ่ง การหว่านกัลปพฤกษ์นั้นคือการโปรยทาน เป็นสร้างกุศลบารมีครั้งสุดท้ายให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
7.โบว์ดำกลัดคนท้อง
ตามความเชื่อของชาวอีสาน คือ ป้องกัน ภูตผีปีศาจ มาเอาลูกในท้องของเเม่เด็ก
8.น้ำตก (โลกความฝัน)
ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นน้ำตกไหลสวนทางกัน สื่อถึงธรรมชาติที่มีการเปลี่ยนเเปลงและเเตกต่างกันอยู่เสมอ คนเราไม่อาจขัดขวางหรือฝืนธรรมชาติได้ มันคือธรรมชาติของจริงที่เราต้องเจอ เรียนรู้ แล้วอยู่กับมัน
9. พิธรกรรมตัดสายแนน
ผมได้หยิบเอาพิธีกรรมตัดผัวตัดเมียมาเล่าในมิติของความเชื่อ เขาเชื่อกันว่าพิธีกรรมนี้จะทำให้คนที่ตายไม่มาเอาคนที่อยู่ตายไปด้วย เหมือนตัดขาดความสัมพันธ์ ตัดขาดความคิดถึงตัดขาดความห่วงใย ตัดขาดความรู้สึก แต่ถ้าตอนทำคนที่ทำหันกลับไปดู จะทำให้ตัดทุกอย่างไม่ได้ บาดแผลจากความรัก ไม่อาจหายไปจากความทรงจำ
10.ธุง
ธุง เป็นเครื่องประกอบพิธีกรรมสำคัญของชาวอีสานมาอย่างยาวนาน เชื่อกันว่าสามารถใช้ป้องกันสิ่งนิสัยไม่ดีร้ายหรือสิ่งไม่ดีที่มองไม่เห็นหรือภูตผีวิญญาณที่จะมารบกวนงานบุญ หากเห็นธุงแล้วจะถอยออกไป พร้อมกันนั้นยังเป็นการบอกกล่าวบวงสรวงเทพยดาในพื้นที่ว่ามีการทำบุญและมีพิธีการสำคัญให้มาช่วยปกป้องคุ้มครอง
11.โปรยข้าวตอก
สื่อถึงคติธรรมว่า คนตายนั้น รูปกับนามแตกจากกันเหมือนข้าวตอกแตกที่แตกออกจากกัน
12.ยายผูกเเขนให้เซียง
อีสานมีความเชื่อการผูกฝ้าย เป็นการรับขวัญให้เข้ามาในชีวิต ให้ชีวิตเจอแต่สิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อหรือเป็นความจริงสุดท้ายถ้าทำแล้วเราสบายใจที่จะทำเราก็ทำ อย่างน้อยการที่เราทำมันก็เกิดจากความรัก ความห่วงใย ความอบอุ่นของหัวใจเราเอง
13.เสื้อเเดงเเขวนหน้าบ้าน
ในความเชื่อของชาวอีสาน การเเขวนเสื้อแดงที่หน้าบ้านเป็นการป้องกันผีเเม่ม่ายที่จะมาเอาชีวิตของคนในบ้าน เเละอีกความเชื่อเป็นการป้องกันสิ่งอัปมงคลเเละผีต่างๆไม่ให้มารังควานผู้คนที่อยู่ในบ้าน
14.เมรุหลากสีสัน
เราตั้งคำถามว่าสื่อถึงการช่วยคลายความโศกเศร้าของคนที่สูญเสีย แต่เมื่อถึงวาระสุดท้ายที่จะทำการเผาศพผู้วายชนม์ เกิดขึ้นจริงๆสีสันต่างๆของเมรุยังจะช่วยปลอบอารมณ์ของเราได้ไหม
15.นกบินออกจากบ้าน
โบยบินออกที่จากที่อยู่อาศัย โบยบินออกจากความเป็นห่วง โบยบินออกจากการสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รัก อันนี้ตีความได้เยอะมากเลยครับ
ลึกซึ้งมากๆเลยค่ะถ้า ต้องเต ไม่ออกมาอธิบายหลายๆคนอาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามีเรื่องราวแบบนี้ด้วย
ขอขอบคุณ : ต้องเต ต้องเต ธิติ