หลังจากที่มีกระแสข่าวว่านางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือคุณแม่ของแตงโม ได้มีการยื่นคำร้องต่อศาล เรียกค่าเสียหายส่วนแพ่งกับจำเลยที่ 3-6 ได้แก่ แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ , กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์,จ๊อบ นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร,และ ภีม เอ็ม ธรรมธีรศรี เป็นจำนวนเงิน 40 ล้าน 8 แสนบาท
ล่าสุด พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน วิศาพัช ยืนยันกับทีมข่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อประมาณ 4 วันที่แล้ว ว่าคุณแม่ได้ยื่นเรื่องไว้ ตั้งแต่ประมาณปลายเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
โดยที่มาที่ไปนั้น ก็มาจากวันที่ 21 ก.ย.65 ที่ผ่านมา ซึ่งคุณแม่ได้เรียกค่าเสียหายตั้งต้นที่ 50 ล้านบาท แต่วันนั้น มีการเจรจาไกล่เกลี่ยต่อหน้าศาล
ว่าลงตัวที่ว่า จำเลยที่ 1-2 จะเป็นผู้จ่ายค่าเสียหายให้ในจำนวนเงิน 9.2 ล้านบาท และคุณแม่ก็ได้ทำสัญญาประนีประนอมว่า จะรับเงินจากจำเลยที่ 1-2
และไม่ติดใจจำเลยทั้ง 6 แล้ว ทั้งแพ่งและอาญา เมื่อถามว่าในเมื่อมีตกลงกันแล้วและมีการทำสัญญา รวมทั้งไม่ติดใจ ทำไมถึงเรียกเพิ่ม
ทนายพรศักดิ์ ระบุว่า ตนเห็นว่าในเอกสารว่าใครจะรับผิดชอบตรงไหน เชื่อว่าคุณแม่จะดูจากตรงนี้ ก็คือคนจ่ายเป็นจำเลยที่ 1-2 คือ ปอ และโรเบิร์ต
แต่จำเลยที่เหลือยังไม่รับผิดชอบ คล้ายๆเป็นการหาช่องโหว่ทางกฎหมาย ทนายพรศักดิ์ยังกล่าวว่า ภายหลังคุณแม่เรียกเพิ่ม 40.8 ล้านบาท
ในฐานะทนายความไม่ตกใจและไม่แปลกใจ แต่ไม่คิดว่าคุณแม่จะใช้สิทธิยื่นแบบนี้อีก เพราะตามปกติแล้ว เมื่อทำสัญญากันแล้วจะต้องยุติกันเลย ไม่ควรใช้สิทธิยื่นซ้ำใหม่
สำหรับเหตุผลที่คุณแม่ระบุชัดเจนเลยว่า ยังไม่ได้รับเงินจากจำเลยที่ 3-6 จำนวน 40.8 ล้านบาท พร้อมระบุตัวเลขที่หักออกไปแล้วคือ 9.2 ล้านบาท
จากการที่จำเลยที่ 1-2 รับผิดชอบไปแล้ว ส่วนแนวทางในการตอบโต้ต่อจากนี้ ทนายพรศักดิ์ ระบุว่า ศาลมีคำสั่งว่าให้เรายื่นคำสั่งให้การตามระบบ
ซึ่งจะตอบโต้กลับในประเด็นที่ว่ามีสัญญายินยอมแล้ว ตามกฎหมายถือว่ายินยอม ไม่ติดใจ รวมทั้งมองว่าค่าเสียหายที่เรียกสูงเกินไป ซึ่งตนมองว่าแตงโม
ไม่น่าจะมีรายได้ประมาณนั้น และต่อสู้ในเรื่องการเรียกซ้อนมาจากครั้งที่แล้วที่เคยเรียกไปแล้ว เมื่อใช้สิทธิแบบนี้ก็จะมีการยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณา
ให้คุณแม่วางเงินค่าธรรมเนียมศาล 200,000 บาท ทนายพรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้พูดคุยกับแซน /กระติก และนายภีม แล้ว ทุกคนยืนยันว่าไม่จ่ายแน่นอน
และจะยื่นคำร้องขัดค้านต่อศาลก่อนวันนัดครั้งต่อไปคือ 2 มี.ค. 66 อีกอย่างตามความเป็นจริงแล้วหลักกฎหมาย คดีอาญาจำเลยต้องผิดก่อน
ถ้าผิดแล้วศาลจึงจะมาวินิจฉัยในส่วนของคดีแพ่ง ซึ่งตรงนี้ยังไม่รู้เลยว่าคดีอาญาผิดหรือไม่ เพราะได้ปฏิเสธไปแล้ว
โดยแซนกล่าวถึงการโพสต์ IG พร้อมตั้งคำถามไปยังคุณแม่ว่า พวกตนทำอะไรผิด ต้องมานั่งขูดรีด มาทำกันขนาดนี้ เรื่องจะจบแล้ว แต่ไม่จบสักที
ข้อหาก็ได้มาแล้วฟรีๆ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมต้องให้มีเรื่องต้องจ่ายด้วย ส่วนที่นายปอ และนายโรเบิร์ตให้ไปก็เป็นเรื่องของเขา
ซึ่งตอนแรกคุณแม่ก็บอกว่าโอเคแล้ว แล้วจะมาอะไรอีก เมื่อถามว่า 40 ล้าน 8 แสนบาทที่คุณแม่เรียกมายอม จ่ายหรือไม่
แซนกล่าวว่า “อื้อหือ ถ้าเกิดแซนทำทุนสีเทา ก็คงจะมีตังค์มาจ่าย แต่ไม่ใช่ แซนไม่มีตังค์จ่าย และก็ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย ต้องจ่ายเรื่องอะไรเหรอ ข้อหาอะไร”
แซน วิศาพัช ยังฝากทิ้งท้ายถึงคุณแม่ด้วยว่า “แม๊ พอเถอะ หนูเหนื่อย ส่วนคำเตือนหรือคำแนะนำนั้นคงไม่มีให้ ยืนยันยังคงรักและเคารพคุณแม่อยู่ แต่ให้พอเถอะค่ะ เหนื่อยแล้ว อยากให้จบได้แล้วเรื่องนี้”
ขอบคุณข้อมูล:เรื่องเล่าเช้านี้
