ต้องบอกเลยว่าเป็นนักร้อง-นักเเสดง อารมณ์ดี ที่มักจะมีเสียงหัวเราะให้เเฟนๆได้เห็นกันอยู่เสมอเลยค่าสำหรับ เจเน็ต เขียว ที่กว่าจะโด่งดังเป็นที่รู้จักชีวิตของเจเน็ต เขียว นั้นต้องต่อสู้กับความยากลำบากมาไม่น้อย โดยเธอตัดสินใจเข้ามายังกรุงเทพฯเพื่อเสี่ยงดวงเมื่ออายุได้ 16 ปี
โดยเริ่มจากการเป็นเด็กเสิร์ฟ ก่อนที่จะเป็นนักร้องคาเฟ่ตามคำชักชวนของเพื่อนซึ่งมีรายได้เดือนละ 1,500 บาท จนกระทั่ง จิระชัย กุลละวณิชย์ อาจารย์สอนร้องเพลงมานั่งที่ร้านแล้วออกปากชมว่าเขียวเสียงดีจึงชักชวนให้ประกวดร้องเพลงสยามกลการอวอร์ต
โดยได้อาจารย์ฝึกร้องเพลงซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลนักร้องดีเด่น ประจำปี 2533 สยามกลการอวอร์ตจนเป็นจุดเริ่มต้นให้เจเน็ต เขียว ไต่ระดับเข้ามาในวงการมากขึ้น
เเต่หลังจากที่โด่งดังเเละมีชื่อเสียง เจเน็ต เขียว ได้ตัดสินใจขายบ้านหรู 5.5 ล้านบาทในเมืองกรุงกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่บ้านเกิดในจังหวัดนครราชสีมา
หลังจากที่ขายบ้านเเละในช่วงโควิดที่ผ่านมาทำให้เจเน็ต เขียว ไม่มีงานเจ้าตัวเลยได้สานฝันของตัวเองสร้างไร่ สร้างสวนผลไม้บนเนื้อที่ 12 ไร่
ซึ่งเจเน็ต เขียว ยังลงทุนลงเเรงทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมดตั้งชื่อว่า ไร่อีเจ้ย ส่วนทางด้านงานในวงการบันเทิง เจเน็ต เขียว ก็ยังคงรับงานในวงการอยู่เหมือนเดิม
ส่วนบ้านหลักจะอยู่โคราชเเต่ยังสามารถเดินทางไปกลับกรุงเทพ-โคราช ได้อยู่ตลอด โดยที่กรุงเทพเช่าบ้านอยู่เเทนเรียกว่าการตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด
ทำให้เจเน็ต เขียว นั้นเเฮปปี้เเละมีความสุขกับการที่ตัวเองได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ เเละสร้างสวรรค์บนดินด้วยตัวเองหันไปทางไหนยังเเต่ท้องทุ่งสีเขียวขจี
เรียกว่าเป็นชีวิตที่เเสนธรรมดาเรียบง่ายที่น่าอิจฉามากๆเลยค่าเเถมทางด้านสามีของสาวเจเน็ต เขียว ยังคอยสนับสนุนภรรยาอย่างเต็มที่ด้วย
ขอบคุณข้อมูล:janet_keaw